ต่างชาติแห่ร่วมทุนลุยแนวราบ โตคิวมั่นใจอสังหาฯ รีบาวด์!
เทรนด์การอยู่อาศัยปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจโครงการแนวราบมากกว่า ส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติหันมาลงทุนโครงการแนวราบด้วยการร่วมทุนกับดีเวลลอปเปอร์ไทยระหว่างที่ตลาดคอนโดชะลอตัว เพราะมั่นใจอสังหาฯรีบาวด์! อีกครั้ง
สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่เทรนด์การอยู่อาศัยปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจโครงการแนวราบมากกว่า ส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติหันมาลงทุนโครงการแนวราบมากขึ้น และเน้นร่วมทุนกับพันธมิตรดีเวลลอปเปอร์ไทย ไม่ว่าจะ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมทุน ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ลงทุนโครงการเสนา เวล่า, ออริจิ้น ร่วมทุน โลฟิสจากฮ่องกง เปิดตัวโครงการบ้านจัดสรร บริทาเนีย อมตะ-พานทอง และ เพอร์เฟค ร่วมทุน ฮ่องกง แลนด์ พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์
ทากายูกิ มัตสึโมโตะ ผู้จัดการอาวุโส โตคิว คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา โตคิว คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมทุนกับ แสนสิริ พัฒนาคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ ทากะ เฮาส์, เดอะเบส สุขุมวิท 50 และเอ็กซ์ที เอกมัย 2 โครงการแรกขายหมดแล้วส่วน เอ็กซ์ที เอกมัย ยอดขาย 90% ดังนั้นจึงนำเงินที่ได้มาลงทุนร่วมกับแสนสิริโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ท บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา เป็นครั้งแรก!
จุดแข็งของแบรนด์แสนสิริในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่โดดเด่นด้านคุณภาพ การออกแบบ ฟังก์ชั่น บริการหลังการขาย และด้วยศักยภาพของทำเลกรุงเทพกรีฑาที่คล้ายคลึงกับการขยายตัวของชุมชนที่อยู่อาศัยหลายย่านในโตเกียว ซึ่งแต่ละย่านต่างมีกลิ่นอายและบรรยากาศความเป็นชุมชนเมืองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ย่านชิบูย่า ย่านฟุทาโกะทามางาวะ ย่านทามะพลาซ่า ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นตามแนวเส้นทางรถไฟสายเดนเนนโทชิ ของโตคิว
“ย่านกรุงเทพกรีฑา คล้ายคลึงกับย่านชุมชนข้างสถานีทามะพลาซ่า ในฐานะที่เป็นย่านที่พักอาศัยชานเมืองคุณภาพสูงที่ตั้งอยู่ในโตคิว ทามะ การ์เดน ซิตี้ ใจกลางเมืองโตเกียว ถือเป็นรูปแบบการขยายเมืองจากใจกลางชั้นในไปสู่เขตเมืองชั้นนอก โดยสร้างเป็นกลุ่มเมืองตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยรายล้อมครบครัน”
มั่นใจโครงการบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา จะได้รับการตอบรับที่ดี เป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบและชุมชนแห่งการพักอาศัยระดับอินเตอร์เนชั่นแนล
นอกจากนี้ โตคิว คอร์ปอเรชั่น ยังได้ร่วมลงทุนกับสหพัฒน์เปิดตัวโครงการ HarmoniQ ที่อยู่อาศัยในศรีราชา รองรับดีมานด์ลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่มาอาศัยอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) ของไทย ปล่อยเช่าเฉลี่ยเดือนละ 80,000-90,000 บาท เฟสแรกมี 180 ยูนิต ปีที่ผ่านมาเพิ่มอีก 32 ยูนิต เป็นบ้านขนาด 4 ห้องนอน แต่หลังโควิด-19 อัตราการเช่าลดลงเหลือ 60-90% เนื่องจากคนญี่ปุ่นที่มาทำงานไม่ได้พาครอบครับมาด้วย
“แม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่โครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพและแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี คาดการณ์ว่าภาคอสังหาฯ ไทยจะรีบาวน์กลับมาอีกครั้ง โตคิว คอร์ปอเรชั่น จึงเตรียมพร้อมลงทุนต่อเนื่อง โดยมีแผนที่ขยายโครงการปล่อยเช่าจำนวน 109 ยูนิต รองรับคนญี่ปุ่นที่กลับมาทำงานในอีอีซี และโครงการร่วมทุนกับแสนสิริในอนาคต”
ทางด้าน อาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง แสนสิริวางแผนเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีเพิ่มอีก 4 แบรนด์ บน 5 ทำเล มูลค่าโครงการรวม 19,000 ล้านบาท
นำร่องบ้านเดี่ยวบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา สไตล์รีสอร์ท มูลค่า 4,800 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนพัฒนาแนวราบระหว่างแสนสิริ และโตคิว คอร์ปอเรชั่น กลุ่มบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีธุรกิจหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การคมนาคมขนส่ง อสังหาฯ ไลฟ์สไตล์และบริการ โรงแรมและรีสอร์ท
โครงการตั้งอยู่บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้” ชุมชนที่พักอาศัยระดับอินเตอร์เนชั่นแนลแห่งใหม่ของแสนสิริบนพื้นที่ 500 ไร่ ล่าสุดทำยอดขายแล้ว 80% ของทุกยูนิตในเฟสแรก มูลค่ารวม 1,640 ล้านบาท สะท้อนการตอบโจทย์ผู้ซื้อบ้านยุคใหม่ ซึ่ง “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา” จะเป็นหนึ่งโครงการสำคัญผลักดันให้แสนสิริบรรลุเป้ายอดขายโครงการแนวราบที่ 24,000 ล้านบาท และปิดยอดขายรวมที่ 35,000 ล้านบาทในปี 2565
“เชื่อว่าการร่วมทุนมีผลดึงกลุ่มคนญี่ปุ่นเข้ามาเป็นลูกค้ามากขึ้นจากเดิมที่เป็นคนจีน ยุโรป”
สำหรับยอดขายแนวราบ 7 เดือนแรกของปี 2565 สูงถึง 18,600 ล้านบาท คิดเป็น 77% ของเป้ายอดขายโครงการแนวราบ 24,000 ล้านบาทในปีนี้ และ 54% จากยอดขายรวมบริษัท 35,000 ล้านบาท โดยยอดขายส่วนใหญ่ของแนวราบมาจากโครงการระดับบน 54% มูลค่ารวม 10,200 ล้านบาท มีไฮไลต์สำคัญ เช่น นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา สร้างยอดขาย 80% ตั้งแต่ยังไม่เปิดโครงการ ขณะที่ เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และบุราสิริ บึงหนองโคตร ขอนแก่น ปิดการขาย 100%
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
SC ครึ่งปีแรกยอดขายทำนิวไฮ 12,020 ล้านบาท ตั้งบริษัทใหม่รุกสร้างรายได้น่านน้ำใหม่
SC แรงไม่หยุด บ้านและคอนโดฯ ขายดี ครึ่งปีแรกกวาดยอดขายทำนิวไฮ 12,020 ล้านบาท เติบโตทั้งยอดขาย รายได้และกำไร การเงินแข็งแกร่งอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.08 บาท/หุ้น และตั้งบริษัทย่อย บจ.เอสซีเอ็กซ์ วัน เพื่อรุกลงทุนอสังหาฯ สร้างกำไรบนน่านน้ำใหม่ มั่นใจยอดขายและรายได้ตามเป้า 22,000 ล้านบาท
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำการเป็น Living Solutions Provider คุณภาพสูง เปิดเผยอย่างมั่นใจว่า SC จะทำสำเร็จตามเป้าหมาย 22,000 ล้านบาท ทั้งยอดขายและรายได้ นั่นคือรายได้จะเติบโตมากกว่า 10% yoy
ครึ่งปีแรกทุกโครงการเปิดใหม่ขายดีเกินเป้าหมาย เราทำยอดขายได้แล้วถึง 55% ของเป้าหมายทั้งปี เป็นตัวเลขนิวไฮ (new high) คือ 12,020 ล้านบาท และเติบโต yoy ทั้ง 3 ตัวเลขสำคัญ คือ
1.ยอดขาย 12,020 ล้านบาท เติบโต 6% yoy เติบโตทั้งแนวราบและแนวสูง 9,837 ล้านบาท เติบโต 5% yoy และ 2,183 ล้านบาท เติบโต 13% yoy ตามลำดับ
2.รายได้ 9,068 ล้านบาท เติบโต 4% yoy
3.กำไรสุทธิ 969 ล้านบาท เติบโต 3% yoy
ด้วยผลประกอบการและสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ล่าสุด คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติ 1.จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.08 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 7 ก.ย.นี้
2.จัดตั้งบริษัทย่อย 2 บริษัท ภายในไตรมาส 3/2022 ได้แก่ บริษัท เอสซีเอ็กซ์ วัน จำกัด (SCX ONE COMPANY LIMITED) เพื่อลงทุนในอสังหาฯ สร้างกำไรจากน่านน้ำใหม่ ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท และบริษัท เอสซี แอสเสท โฟร์ จำกัด (SC ASSET FOUR COMPANY LIMITED) ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท
สำหรับปีนี้บริษัทจะทำยอดขายและรายได้สำเร็จตามเป้าหมาย 22,000 ล้านบาท โดยที่ปัจจัยส่งเสริมความมั่นใจคือ ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังสูงต่อเนื่อง และจำนวนโครงการที่มากเพียงพอในครึ่งปีหลังรวม 61 โครงการ มูลค่า 59,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 44 โครงการต่อเนื่อง มูลค่ารวม 33,000 ล้านบาท และ 17 โครงการใหม่สำหรับครึ่งปีหลัง
Xโดย 17 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 16 โครงการแนวราบ มูลค่า 23,800 ล้านบาท และ 1 โครงการคอนโดมิเนียม มูลค่า 2,500 ล้านบาท บนถนนสุขุมวิท 0 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัท สโคป
และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ รายได้จากการโอน 3 คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ในไตรมาส 4 คือ The Crest Park Residences, SCOPE Langsuan และ SCOPE Promsri
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า “ปี 2022 เป็นอีก 1 ปีที่มีความท้าทายและความผันผวนอย่างสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยวัฒนธรรมองค์กร #SCskydive ที่ให้ความสำคัญเรื่องการเอาใจใส่ลูกค้า และการปรับตัวอย่างยืดหยุ่น รวมถึงการเตรียมพร้อมสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง SC จะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนบนวิถีโลกใหม่ และส่งมอบคุณค่าให้ทั้งผู้คนและสิ่งแวดล้อม”
ณ 30 มิถุนายน 2022 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 51,773 ล้านบาท และหนี้สินรวม 31,465 ล้านบาท มูลค่าทางบัญชี เท่ากับ 4.81 บาทต่อหุ้น และมีอัตราส่วนหนี้สิน/ทุน (D/E) เท่ากับ 1.55 เท่า
ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com
ค่าเงินบาทวันนี้เปิดตลาดเช้านี้ “แข็งค่า” ที่ระดับ 35.36 บาทดอลลาร์
เงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 35.10-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้ควรระมัดระวังความผันผวนของเงินบาทที่อาจมาจากเงินดอลลาร์อาจพลิกกลับมาแข็งค่า
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.36 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.47 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าสำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่เดินหน้าซื้อสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง
โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด อย่างไรก็ดี ควรระมัดระวังความผันผวนของเงินบาทที่อาจมาจากเงินดอลลาร์ได้ในช่วงระหว่างตลาดรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ รวมถึงช่วงตลาดรับรู้รายงานการประชุม FOMC
ล่าสุด ซึ่งเงินดอลลาร์อาจพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หากตลาดกลับมามองว่าเฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนกันยายน จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่ได้ชะลอตัวลงจนน่ากังวล แต่เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นปัญหาสำคัญของเฟดที่ต้องแก้ไข
ทั้งนี้ เรามองว่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 35.10-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาปรับเปลี่ยนทิศทางของตลาดการเงิน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.45 บาท/ดอลลาร์
รายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ Walmart และ Home Depot ที่ออกมาดีกว่าคาดนั้น ได้ช่วยหนุนให้บรรยากาศในตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ โดยรวมดีขึ้นและบรรดาผู้เล่นในตลาดยังคงกล้าที่จะเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง ส่งผลให้ดัชนี Dow Jones ปิดตลาด +0.71% ส่วน S&P500 ปรับตัวขึ้นราว +0.19%
อย่างไรก็ดี รายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกที่ดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มการใช้จ่ายของครัวเรือนในสหรัฐฯและคลายกังวลแนวโน้มการชะลอตัวลงหนักของเศรษฐกิจ ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 2.85% กดดันให้ หุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ต่างปรับตัวลดลง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวลดลง -0.19%
ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX600 ยังคงปรับตัวขึ้นราว +0.16% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ดี ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลงหนักและเสี่ยงเข้าสู่สภาวะถดถอย
ซึ่งสะท้อนจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) เดือนสิงหาคม ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ -55.3 จุด แย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยซื้อหุ้นในกลุ่ม Defensive อาทิ หุ้นกลุ่มเทเลคอม (Telefonica +2.7%) และกลุ่มการแพทย์ (Sanofi +1.7%) มากขึ้น
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ได้ปรับตัวลดลง สู่ระดับ 106.4 จุด หลังผู้เล่นในตลาดลดความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยลงบ้าง จากความหวังแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจไม่ได้ชะลอตัวลงหนักหรือเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของผู้เล่นในตลาดยังสอดคล้องกับการอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) สู่ระดับ 134.3 เยนต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ แม้เงินดอลลาร์จะย่อตัวลงมาบ้าง แต่ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดที่หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนกรกฎาคม เพื่อประเมินแนวโน้มการบริโภคของผู้คน ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการปรับนโยบายการเงินของเฟดได้
ตลาดมองว่า ยอดค้าปลีกอาจขยายตัวได้ราว +0.1%m/m หรือ +0.3%m/m สำหรับยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้างและอาหาร ซึ่งการขยายตัวต่อเนื่องของยอดค้าปลีกนั้นหนุนโดย ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ แนวโน้มการใช้จ่ายของครัวเรือนยังดูสดใส สะท้อนจากรายงานยอดขาย Amazon Prime ระหว่างวันที่ 12-13 กรกฎาคมที่แข็งแกร่ง และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
รวมถึงรายงานการประชุม FOMC ล่าสุด (ซึ่งจะทราบในช่วงเวลา 01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันพฤหัสฯ) เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของเฟด หลังที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงออกมาดีกว่าคาด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ โดยรวมเริ่มชะลอตัวลงมากขึ้นจากช่วงต้นปี โดยเฉพาะเงินเฟ้อทั่วไป (CPI)
ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของอังกฤษ (CPI) เดือนกรกฎาคม มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 9.8% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ก็เร่งตัวขึ้นแตะระดับ 6.0% เช่นเดียวกัน ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง จะส่งผลให้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ได้ในการประชุมเดือนกันยายน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เปิดวิ่ง Border Trail Run @ Ta Phraya ตามรอยอารยธรรม ไทย – กัมพูชา, ฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่
เปลี่ยนเส้นทางลาดตระเวน จากรอยเท้าบูธ เป็นรอยทางวิ่ง ย่ำกิโลเมตรประวัติศาสตร์ไทย-กัมพูชาที่หลายคนอาจแค่เคยได้ยิน สร้างประสบการณ์แตกต่างที่ต้องจดจำ ผ่านการแข่งขัน #BorderTrailRun@TaPhraya
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น. กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 1 ได้จัดงานแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งตามภูมิประเทศ (Trail Running) ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ภายในงานแถลงข่าวมี พลโท สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานในการแถลงข่าว ร่วมกับ จังหวัดสระแก้ว การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสระแก้ว ณ หอประชุมกองทัพภาคที่ 1 ถนน พิษณุโลก แขวง ดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
พลโท สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงการจัดการแข่งขันวิ่ง Border Trail Run @ Ta Phraya ว่า “ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยุม่งเน้นให้ประชาชน มีพลานามัยที่ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กรุณาส่งเสริมให้ออกกำลังกายด้วยการวิ่งในภูมิประเทศ ซึ่งนอกจากจะได้ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังได้ชื่นชมความงามของภูมิประเทศที่หลายหลาย ทั้งในพื้นราบทั่วไป และพื้นที่ป่าภูเขานั้น”
” กองทัพบกได้สนองนโยบายดังกล่าว โดยมอบหมายให้ กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งมีภารกิจสำคัญประการหนึ่ง ได้แก่ การป้องกันชายแดนทางด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการแข่งขันวิ่งตามภูมิประเทศตามแนวชายแดนด้านทิศตะวันออก ในพื้นที่ อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และ อำเภอละหารทราย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับประชาชนทั่วไป เพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ แข็งแรง ให้ประชาชนได้รับทราบถึงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวชายแดน อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้วซึ่งในอดีตเคยเป็นพื้นที่สู้รบ แต่ในปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจการค้าตามแนวชายแดนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการรำลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหาร ที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศ นำความสงบสุขร่มเย็นมาสู่อนุชนรุ่นหลัง และกระตุ้นการท่องเที่ยวตามแนวอารยธรรม ไทย – กัมพูชา และฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ภายหลังจากที่ประเทศกำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019”
สำหรับ Border Trail Run @ Ta Phraya มีกำหนดการจัดการแข่งขันขึ้นในวันเสาร์ที่ 10 ถึงวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2565 แบ่งประเภทการแข่งขันจำนวน 5 ระยะทาง ได้แก่ 5 กม., 10 กม., 25 กม., 60 กม. และ 100 กม. ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้มาตรฐานในระบบสากล ทั้งพื้นราบและป่าภูเขา ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ หลักเขต 28, จุดชมวิวประเทศกัมพูชาแห่งใหม่, ลานหินตัดและ ละลุ หมู่บ้านทัพไทย เป็นต้น และมีบางส่วนผ่านเข้าไปในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด อยู่ที่ บ.ทับทิมสยาม 03 ตำบลทัพไทย อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้วซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญต่อเหตุการณ์สู้รบในอดีต โดยสามารถดูรายละเอียด การสมัครเข้าแข่งขัน ได้ที่ เพจ Facebook : Border Trail Run หรือเว็บไซต์ www.runningconnect.com
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“วูบหมดสติ” สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
วูบหมดสติ เป็นอาการสูญเสียความรู้สึกตัว และการทรงตัวชั่วคราว โดยทั่วไปเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง อาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายได้
ภาวะวูบหมดสติ คืออะไร
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาวะวูบหมดสติ (Syncope) เป็นอาการสูญเสียความรู้สึกตัว และการทรงตัวชั่วคราว โดยทั่วไปเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลงชั่วขณะ ทำให้สมองขาดออกซิเจนชั่วคราว
อาการวูบหมดสติ จะมีลักษณะอาการเฉพาะ คือ หมดสติเฉียบพลัน เกิดขึ้นชั่วขณะในระยะเวลาอันสั้น และสามารถฟื้นคืนสติได้เอง จะแสดงออกทางอาการหลากหลาย เช่น
- เรียกไม่รู้สึกตัว
- ล้มลงกับพื้น
- ทรงตัวไม่อยู่
- อาจมีอาการเกร็งที่มือ เท้า
- ตาค้างชั่วขณะ
- เหงื่อออกที่ใบหน้า
ซึ่งผู้ป่วยจะจำเหตุการณ์ตอนหมดสติไม่ได้ โดยจะมีระยะเวลาการหมดสติ ตั้งแต่ 30 วินาที ถึง 5 นาที ขึ้นกับสุขภาพพื้นฐานเดิมของผู้ป่วย
ในบางรายอาจจะมีอาการนำมาก่อนเกิดอาการวูบหมดสติ เช่น
- รู้สึกหวิวๆ
- มึนศีรษะ โคลงเคลง
- ตาพร่าหรือเห็นแสงแวบวาบ
- ปลายมือปลายเท้าเย็น
- คลื่นไส้
เป็นต้น
อันตรายของภาวะวูบหมดสติ
อาการวูบไม่รู้ตัวเป็นเรื่องที่อันตรายมากโดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานบนที่สูง หรือผู้ที่ต้องขับรถ หากมีอาการวูบบ่อยๆ ควรพบแพทย์ประเมินหาสาเหตุ
สาเหตุภาวะวูบหมดสติ
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของภาวะวูบหมดสติ เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น
- สาเหตุจากหัวใจ เกิดจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ เส้นเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ
- เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ ซึ่งมักพบตามหลังสถานการณ์เฉพาะบางอย่าง เช่น หลังไอ จาม เบ่ง ยืนนานๆในที่แออัด หรืออากาศร้อน กลัวการเจาะเลือด เป็นต้น
- เกิดจากการเสียเลือดหรือขาดน้ำ เช่น ท้องเสียรุนแรง หรือมีเลือดออกในอวัยวะภายใน
- เกิดจากยาบางชนิด โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิตสูง ยารักษาต่อมลูกหมาก ยาต้านอาการซึมเศร้า หรือแม้แต่ยาเบาหวาน
วูบหมดสติแบบไหน ที่อันตราย ควรพบแพทย์
สิ่งที่เป็นอันตรายที่ควรต้องระวัง คือ หลังจากผู้ป่วยตื่นขึ้นมาอาจมีอาการบาดเจ็บได้ การรักษาควรจะต้องรักษาที่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ แต่ถ้าหากวูบหมดสติตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการ เช่น ปากเบี้ยว ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด ชาหรืออ่อนแรงร่างกายครึ่งซีก อาจเป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติภาวะทางสมองอาการของหลอดเลือดสมองตีบ หรือหลอดเลือดสมองแตกได้
ผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ชิดควรต้องสังเกตอาการวูบที่เกิดขึ้น และควรรีบมาพบแพทย์ทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
วันนี้ต้องหายสงสัย !! คำว่า Sorry กับ Excuse me ใช้ต่างกันยังไง ในเมื่อมันหมายถึงขอโทษทั้งคู่
ประโยคที่ใช้กันบ่อยมากที่สุดในโลกของเรานี้คงหนีไม่พ้นคำว่าขอบคุณและขอโทษ วันนี้ Engnow.in.th เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี อยากพาทุกคนไปรู้จักกับคำว่า “ขอโทษ” ในภาษาอังกฤษ ที่เรามักจะเจอกันบ่อยๆ หลายคนก็แอบสงสัยว่า Sorry กับ Excuse me มันใช้ต่างกันยังไง ทั้งๆ ที่เราต่างได้ยินสองคำนี้กันแทบทุกวัน รอช้าอยู่ใยไปดูกันเลย
เริ่มด้วย “Excuse me” อ่านว่า /เอ็คซคยูซ-มี/
มักจะใช้เมื่อ …
1.กล่าวเพื่อเรียกร้องความสนใจแบบสุภาพ
2.แสดงความเสียใจที่จะไปรบกวนผู้อื่น
3.ใช้เมื่อขอทางผู้อื่น
4.ใช้บอกผู้อื่นเพื่อขอตัวออกจากที่ตรงนั้นแบบสุภาพ
มาดูอีกคำนะ คือคำว่า “Sorry” อ่านว่า /ซอ-ริ/
มักจะใช้เมื่อ
1. แสดงถึงความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น
สรุปคร่าวๆ ในแบบฉบับ Engnow
คำว่า Excuse me จะใช้กล่าว “ก่อน” ที่เราจะรบกวนผู้อื่น
และคำว่า Sorry มักใช้กล่าว “หลัง” ที่เรารบกวนผู้อื่นไปแล้ว
มาดูตัวอย่างการใช้งานกันครับ
ตัวอย่างที่ 1 : Excuse me , please let me get past.
แปลว่า ขอโทษนะครับ ผมขอทางหน่อย
ตัวอย่างที่ 2 : Oops!… Sorry, did I step on your foot?
แปลว่า โอ๊ะ! ขอโทษครับ ผมได้เหยียบเท้าคุณรึเปล่า?
ตัวอย่างที่ 3 : Excuse me, could you tell me the way to the station?
ขอโทษนะครับ คุณช่วยบอกทางไปสถานีนี้หน่อยได้ไหมครับ?
รู้อย่างนี้แล้ว นำไปใช้กันนะครับ โลกใบนี้จะน่าอยู่ขึ้น ถ้าเราขอโทษกันให้เกียรติกัน แม้ว่าเขาจะไม่ให้อภัยเรา แต่อย่างน้อยเราก็ได้แสดงออกถึงความจริงใจว่าเราอยากขอโทษในสิ่งที่เราก่อ หรือรบกวนคนอื่นไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
Spotify Premium ขยายระยะเวลาทดลองใช้งานฟรีเป็น 3เดือน
Spotify กำลังขยายระยะเวลาทดลองใช้งานฟรีสำหรับแพ็กเกจของ Spotify Premium เป็น 3เดือน เพิ่มขึ้นจากหนึ่งเดือน โดยในบล็อกของ Spotify กล่าวว่าการทดลองให้ใช้งาน Premium สำหรับการรับฟังฟรี 3เดือนนี้จะมีเพียงผู้ใช้ฟรีและผู้ใช้ครั้งแรกเท่านั้นที่มีสิทธิ์
นอกจากนี้ Spotify ยังกล่าวอีกว่าผู้ที่ยกเลิกแผนพรีเมียมก่อนวันที่ 15 กรกฎาคมไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะได้รับเงินคืนโดยเรียกเก็บค่าบริการ 3 เดือนแรกเพียง 9.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งน้อยกว่า 4 ดอลลาร์ต่อเดือน
ข้อเสนอทั้งสองพร้อมใช้งานแล้วและจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 11 กันยายน หลังจากสิ้นสุดช่วงทดลองใช้สามเดือน การสมัครรับข้อมูลจะต่ออายุโดยอัตโนมัติด้วยค่าใช้จ่ายรายเดือนปกติที่ $9.99 ข้อเสนอทั้งสองเปิดให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในตลาด Spotify 135 แห่งทั่วโลก
ขณะนี้ Apple Music ยังคงทดลองใช้งานฟรีตามปกติสำหรับผู้ใช้ใหม่เป็นเวลา 1 เดือน แต่ถ้าบริการตอบสนองด้วยการขยายระยะเวลาทดลองใช้ที่คล้ายคลึงกันเพื่อแข่งขันกับแพ็กเกจของ Spotify
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
กระเทียม-หอมใหญ่ ช่วยลดไขมันในเลือดได้จริงหรือ
กระเทียมสด และหอมหัวใหญ่ มีประโยชน์ต่อร่างกายจากวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ แต่จะช่วยลดไขมันในเลือดได้จริงหรือไม่
รศ.ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ ประธานหลักสูตรโภชนาการและการกำหนดอาหาร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า การกินกระเทียมสด และหอมหัวใหญ่ เพื่อช่วยลดไขมันในเลือดนั้น มีข้อมูลบางส่วนที่ถูกต้องอยู่บ้าง แต่ในส่วนของรายละเอียดอาจยังมีไม่ครบ โดยจริงๆ แล้วมีข้อควรระวังบางอย่างที่อาหารบางอย่างอาจส่งผลต่อผู้ป่วยบางโรคอยู่ด้วย
สำหรับผู้ป่วยที่มีปริมาณไขมันในเลือดสูงมาก มากกว่า 190 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร โดยทั่วไปแล้วควรพบแพทย์มากกว่าที่จะหาผักผลไม้หรือหายารับประทานเอง
ประโยชน์ของ กระเทียม-หอมหัวใหญ่
กระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่มีการศึกษาในเรื่องของประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย จากหลายๆ งานการศึกษา เมื่อนำมาวิเคราะห์รวมกันจะพบว่า การกินกระเทียมสามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้จริง เช่นเดียวกันกับหอมหัวใหญ่ เพราะเป็นพืชในตระกูลเดียวกัน แม้ว่าข้อมูลการศึกษาอาจจะน้อยกว่ากระเทียม แต่ก็ยังพบข้อมูลว่าหอมหัวใหญ่สามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้จริงเช่นกัน
ปริมาณกระเทียม หอมหัวใหญ่ ที่ควรกิน เพื่อช่วยลดไขมันในเลือด
ส่วนใหญ่แล้วในรายงานการศึกษาจะระบุว่า หากจะกินกระเทียมสดเพื่อจุดประสงค์ช่วยลดไขมันในเลือด ควรกินราว 5 กรัม หรือราวๆ 1 ช้อนชาต่อวัน ส่วนหอมหัวใหญ่ ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทานอยู่ที่ ครึ่งหัว ต่อวัน
ข้อควรระวัง ในการกินกระเทียม หอมหัวใหญ่ เพื่อช่วยลดไขมันในเลือด
กระเทียม มีคุณสมบัติทำให้ลิ่มเลือดไม่แข็งตัว หรือละลาย ในกรณีที่กินยาในกลุ่มที่มีฤทธิ์ละลายลิ่มเลือดอยู่แล้ว การกินกระเทียมอาจไปเสริมฤทธิ์ ทำให้ยาละลายลิ่มเลือดมีคุณสมบัติมากขึ้น อาจเกิดอันตราย ทำให้เลือดออกได้ง่ายมากขึ้นไปด้วย
ในทางกลับกัน นอกจากการเสริมฤทธิ์ให้กับยาบางชนิดโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว กระเทียมยังอาจยับยั้งการดูดซึมของยาบางชนิดที่คนทั่วไปอาจจะกินอยู่ เช่น ยารักษาโรควัณโรคบางชนิด ยานอนหลับบางชนิด ยารักษาเชื้อราบางชนิด เป็นต้น
ดังนั้นการกินกระเทียม หากกำลังอยู่ในระหว่างการรับประทานยาตัวอื่นอยู่ อาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวว่าสามารถกินได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสม
กระเทียม หอมหัวใหญ่ ≠ ยา
ในส่วนของคนที่มีไขมันในเลือดสูงมากจนผิดปกติ สามารถแจ้งแพทย์ได้ว่าต้องการรับประทานกระเทียมและหอมหัวใหญ่เพื่อช่วยไขมันในเลือดสูง แต่ต้องไม่ให้กระเทียมไปรบกวนประสิทธิภาพของยาตัวอื่นๆ ที่ต้องกินควบคู่กันไป หรือยาที่รักษาโรคอื่นๆ อยู่ด้วย จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนลงมือกินกระเทียมและหอมหัวใหญ่ด้วยตัวเอง
แต่สำหรับคนทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรงดี แต่ตรวจพบเจอระหว่างตรวจสุขภาพประจำปีว่าไขมันในเลือดสูง และไม่ได้กินยาใดๆ หรือไม่มีข้อบ่งชี้ในการรับประทานยาอื่นเป็นประจำอยู่แล้ว ก็สามารถรับประทานกระเทียมได้
นอกจากนี้ การรับประทานกระเทียมและหอมหัวใหญ่เพียงอย่างเดียว ไม่อาจช่วยลดไขมันในเลือดได้ ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร และปรับวิถีชีวิตของตัวเองมากขึ้น เช่น
- ควบคุมน้ำหนักของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงอาหารทอดต่างๆ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 17/08/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | n/a | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/08/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 37.05 | 37.05 | 37.05 | 37.05 | 37.05 | 37.05 | 37.05 | 37.05 | 37.05 | 37.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 36.78 | 36.78 | 36.78 | 36.78 | 36.78 | 36.78 | 36.78 | 36.78 | 36.78 | 36.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.94 | 35.94 | 35.94 | 35.94 | 35.94 | – | 35.94 | 35.94 | 35.94 | 35.94 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.94 | 32.94 | – | – | – | – | – | – | – | 32.94 |
เบนซิน 95 | 44.46 | – | – | – | 44.91 | – | 44.96 | 44.96 | – | 44.46 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 46.16 | 46.16 | 46.16 | 46.16 | 46.16 | – | – | – | – | 46.16 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |