สาระน่ารู้ประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566

ปิดตำนาน ม.กรุงเทพกล้วยน้ำไท จับตา แปลงโฉม ‘ที่ดินใหม่’

ปิดตำนาน ม.กรุงเทพกล้วยน้ำไท บุคลากรโพสต์ภาพอำลา ตึกเก่าแก่ สัญลักษณ์ ‘ความรู้ คู่ความดี’ อาคาร ดร.เจริญ คันธวงศ์ จับตา กลุ่ม โอสถานุเคราะห์ แปลงโฉม ‘ที่ดินใหม่’ พื้นที่ 27 ไร่ ทำเลกลางเมือง สู่ธุรกิจใหม่

2 ก.พ.2566 – เป็นกระแสข่าวมาสักพักหนึ่งแล้ว สำหรับการเตรียม ปิดมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท หลังผู้บริหาร กลุ่ม ‘โอสถานุเคราะห์’ แจ้งโอนย้ายนักศึกษา ปริญญาตรี-โท และ เอก หลักสูตรนานาชาติ ไปศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ศูนย์รังสิต พร้อมประกาศแปลงโฉมพื้นที่ราว 27 ไร่ กล้วยน้ำไท สู่การพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถต่อยอดเรื่องรายได้ได้  แต่อาจยังให้ความสำคัญ กับธุรกิจการศึกษาอยู่ ท่ามกลาง ‘นายทุน’ จำนวนมาก แห่รุมจีบขอซื้อที่ดินดังกล่าวต่อ  
 

ล่าสุด ปรากฎโพสต์อำลา ของบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Adul Yimngam บุคลากรของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ระบุข้อความ 

” ปิดตำนาน ‘ความรู้ คู่ความดี’ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท “

พร้อมแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยมีการโอนย้ายนักศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมเปิดพื้นที่ให้เข้าถึงแค่สิ้นเดือน ก.พ. ก่อนปรับพื้นที่ใหม่ โดยเฉพาะ อาคาร ดร.เจริญ คันธวงศ์ ที่ปรากฎในภาพ 

ตามรายงานข่าวก่อนหน้า มหาวิทยาลัยกรุงเทพอยู่ระหว่างการพัฒนาวิทยาเขตกล้วยน้ำไท เป็น city campus ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมสร้างสรรค์ ให้เข้ากับยุคสมัย เปิดสอนทั้งหลักสูตรที่ไม่ได้รับปริญญาบัตร ,หลักสูตรระยะสั้น และ หลักสูตรระดับผู้บริหารระดับสูง 

เนื่องจาก เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง กลางเมือง ใกล้สถานีเอกมัย เชื่อมการท่าเรือ เขตคลองเตย ซึ่งจะเป็นฮับใหม่ที่มีแผนพัฒนาใหญ่รองรับอยู่ 

ประวัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

สำหรับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ม.กรุงเทพ) เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 1 ใน 5 แห่งแรกในประเทศไทยถูกสถาปนาขึ้นพร้อมกับ วิทยาลัยเกริก วิทยาลัยไทยสุริยะ วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และวิทยาลัยพัฒนา 

เริ่มแรกนั้นได้รับการก่อตั้งในชื่อ “วิทยาลัยไทยเทคนิค” เมื่อปี พ.ศ. 2505 ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วิทยาลัยกรุงเทพ” และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ” เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2527 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2527 โดยจัดการเรียนการสอนใน 11 คณะ รวมทั้ง วิทยาลัยนานาชาติ และบัณฑิตวิทยาลัย ครอบคลุมสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์  

ในอดีต เปิดดำเนินการสอน ใน 2 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท กรุงเทพมหานคร และวิทยาเขตรังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยมี สุรัตน์ และปองทิพย์ โอสถานุเคราะห์ (เจ้าของกิจการกลุ่มโอสถสภา) เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่ง ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท ตั้งอยู่ ภายในซอยบ้านกล้วยใต้ ริมถนนพระรามที่ 4 

ตามประวัติ เดิมเป็นเพียง ถนนลูกรัง แต่เป็นย่านค้าขายของเหล่าบรรดานายห้างต่างชาติ รวมถึงท่าเรือสินค้าที่คลองเตยด้วย ภายหลังมหาวิทยาลัยกรุงเทพมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งการเปิดวิทยาเขตแห่งใหม่ บริเวณย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยให้วิทยาเขตกล้วยน้ำไท เปิดการเรียนการสอนเพียง หลักสูตรพิเศษ ก่อนประกาศปิดตัวลง เพื่อปรับพื้นที่ 25 ไร่ 3 งาน 49 ตารางวา สู่ธุรกิจอื่นๆ ซึ่งต้องจับตาดูว่า ‘เพชร โอสถานุเคราะห์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ’ จะแปลงโฉมที่ดิน ทำเลทองดังกล่าว ต่อยอดทางธุรกิจอย่างไร ? 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


3 เทรนด์ ที่อยู่อาศัย มาแรงปี 2023 “ความยั่งยืน” นำโด่ง

“ลิกซิล โกลบอล ดีไซน์” เผย 3 เทรนด์ มาแรง ส่งอิทธิพลสู่ตลดาอสังหาริมทรัพย์ และการออกแบบตกแต่างภายในบ้าน “ความยั่งยืน ลดใช้น้ำ ลดขยะพลาสติก” นำโด่ง ตามด้วย การออกแบบเพื่อผู้อยู่อาศัยทุกวัยในบ้าน และเทคโนโลยีง่ายๆ ใช้งานได้จริง

นาย อันทวน เบแซร์ เดส์ ออรส์ (Antoine Besseyre des Horts) ลีดเดอร์ (VP) ประจำลิกซิล โกลบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า จากการได้ร่วมงานกับนักออกแบบและบุคคลชั้นนำในวงการมากมาย ทำให้สามารถวิเคราะห์เทรนด์ใหม่มาแรงของปี 2023 โดยเทรนด์ที่มาแรงนี้ เริ่มมีอิทธิพลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบตกแต่งภายในบ้าน

การทำงานจากที่บ้านหรือการ Work From Home ยังคงเป็นเรื่องปกติสำหรับหลาย ๆ คนอยู่ ผู้คนจึงมองหาโซลูชันที่สะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังคงความมีสไตล์เอาไว้ ขณะเดียวกัน ความกังวลในเรื่องภาวะโลกร้อน และราคาของวัสดุก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้น ก็ส่งผลต่อเทรนด์ของที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน ผู้บริโภคเริ่มมองหาโซลูชันเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับแก้ปัญหาในบ้านที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ โซลูชันในการลดปริมาณการใช้น้ำ ลดการปล่อยคาร์บอน รวมไปถึงโซลูชันในการลดภาระค่าสาธารณูปโภค 

3 เทรนด์เรื่องบ้าน ที่มาแรงในปี 2023 ประกอบด้วย

1.      ความยั่งยืน การอนุรักษ์น้ำ และการลดใช้พลาสติก

ความยั่งยืนกลายมาเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ สำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการนำโซลูชันที่มีความยั่งยืนมาปรับใช้ ในปี 2023 นี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านจะถูกออกแบบเพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยไม่ลดทอนประสบการณ์ที่จะได้รับในแต่ละวัน จะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ค่อย ๆ มุ่งเข้าสู่ความยั่งยืนและเกิดการหมุนเวียน  รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น โดยปรับใช้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการตกแต่งภายใน ผ่านการใช้วัสดุรีไซเคิลในส่วนที่สามารถใช้ได้ และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมคำนึงถึงการนำไปรีไซเคิลในอนาคต

นอกจากนี้ ยังจะได้เห็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยลดการใช้พลาสติกและน้ำอย่างต่อเนื่อง อย่างในประเทศสิงคโปร์เพียงประเทศเดียว พบว่ามีการใช้พลาสติกและน้ำภายในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น โดยหากพิจารณาจากทั่วประเทศแล้ว แต่ละคนจะใช้น้ำปริมาณ 158 ลิตรต่อวัน[1]และใช้ขวด PET 467 ล้านขวดในแต่ละปี ส่วนโถสุขภัณฑ์ ฝักบัว และก๊อกน้ำที่ใช้ทรัพยากรน้ำน้อยลงและลดการใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบจะค่อย ๆ เข้ามามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งการใช้น้ำหลัก ๆ ภายในบ้าน เช่นเดียวกับ GROHE Blue ที่มาปฏิวัติระบบน้ำ เพราะสามารถกรอง ทำความเย็น และเติมคาร์บอนลงในน้ำได้โดยตรงจากก๊อกน้ำในครัว มีส่วนช่วยในการลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกได้มากถึง 800 ขวด ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการสร้างโซลูชันที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นของลิกซิล จะนำข้อบกพร่องในการออกแบบผลิตภัณฑ์มาร่วม และหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพของการอนุรักษ์น้ำโดยไม่ลดทอนประสบการณ์และการเข้าถึงโซลูชันของผู้ใช้
 

2.      การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย

แม้ว่า Inclusivity หรือการให้ความสำคัญกับทุกคนจะเป็นคำที่ใช้กันมานานหลายต่อหลายปี แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องของการออกแบบ พื้นที่ทางกายภาพที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่าใดนัก และประเด็นนี้มักไม่ค่อยมีการนำมาพิจารณาเมื่อพูดถึงเรื่องของความหลากหลายและการเปิดกว้าง

อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 นี้ เริ่มที่จะเห็นแนวโน้มในการผสานรวมการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่และสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่มาช่วยรับประกันว่า สภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นจะเอื้อประโยชน์และพร้อมรองรับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยใด ๆ จะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น

การออกแบบที่อยู่อาศัยจะใส่ใจกับประชากรสูงวัยมากขึ้น เมื่อผู้คนมีอายุมากขึ้น พวกเขาจะเดินภายในบ้านที่มีโครงสร้างเดิม ๆ ได้ลำบากขึ้น นักออกแบบจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติชี้ให้เห็นว่า ประชากรสูงวัยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด การออกแบบเพื่อผู้สูงวัยที่เริ่มเห็นแล้ว เช่น อ่างอาบน้ำที่ออกแบบขอบของอ่างอาบน้ำให้มีขนาดกว้างขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก ในขณะที่อ่างแบบวอล์กอิน ช่วยให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นและป้องกันการลื่นล้ม

นอกจากนี้ ยังเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงจากผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงฐานะ ไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเรียบง่ายและใช้งานได้จริงมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคงความสวยงาม ความมีสไตล์ และมาพร้อมกับการใช้งานที่ง่ายและตรงไปตรงมามากกว่าเดิม เพื่อรองรับผู้ใช้ที่มีความหลากหลาย 

3.      เทคโนโลยีช่วยให้เกิดความเรียบง่ายและการใช้งานได้จริง

เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์ในปี 2023 ทั้งเรื่องของความยั่งยืน การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคน และการทำให้บ้านมีสไตล์และมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น การผสานรวมเทคโนโลยีของนักออกแบบจะเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมโดยรอบมากขึ้นเรื่อย ๆ

เช่น ก๊อกน้ำแบบไร้สัมผัสและระบบชำระล้าง ที่ช่วยลดการสัมผัสของผู้ใช้ จะยังคงมีการนำมาใช้ในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ การผสานรวมเทคโนโลยีเข้ากับบ้านจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบายมากกว่า เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับระบบฝักบัว Smart Control ของ GROHE ซึ่งใช้นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งฝักบัวได้ตามต้องการ และควบคุมอุณหภูมิและปริมาณการใช้น้ำได้อย่างง่ายดาย

 
สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเทรนด์ การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นักออกแบบ ช่างก่อสร้าง และสถาปนิกล้วนมีอิทธิพลที่จะผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการออกแบบที่ครอบคลุม การอนุรักษ์น้ำ และความยั่งยืน แต่ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ที่มองการออกแบบจากมุมของความเข้าอกเข้าใจ ความถี่ถ้วน และมีวิจารณญาณ จะมีความโดดเด่นกว่าคนอื่น เพราะตัวเขาเองนั้นกำลังเปลี่ยนชีวิตของผู้คนจำนวนมากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 32.72 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นใกล้โซนแนวรับ 32.50-32.60 บาทต่อดอลลาร์หากผลการประชุมของ ECB และ BOE ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง อาจเป็นปัจจัยที่หนุนให้ทั้งค่าเงินยูโร ค่าเงินปอนด์ แข็งค่าขึ้นต่ออาจกดดันเงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (2ก.พ.2566) ที่ระดับ 32.72 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.84 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าลงและโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ ยังคงเป็นปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด

อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า บรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ก็อาจช่วยหนุนให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนต่อเงินบาท ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม ECB และ BOE

โดยเรามองว่า หากผลการประชุมของ ECB และ BOE เป็นไปตามที่ตลาดคาด (ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง) อีกทั้ง ECB และ BOE ยังคงส่งสัญญาณที่ชัดเจนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็อาจเป็นปัจจัยที่หนุนให้ทั้งค่าเงินยูโร (EUR) และค่าเงินปอนด์ (GBP) แข็งค่าขึ้นต่อได้บ้าง แต่อาจไม่มากนัก

เนื่องจากในเชิงเทคนิคัลทั้ง เงินยูโรและเงินปอนด์ได้ปรับตัวใกล้กรอบแนวต้านมากขึ้น ซึ่งการแข็งค่าขึ้นของทั้งเงินยูโรและเงินปอนด์ อาจกดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงต่อได้บ้างและช่วยให้เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นใกล้โซนแนวรับ 32.50-32.60 บาทต่อดอลลาร์

แต่หาก ECB และ/หรือ BOE ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องตามคาด ขณะที่ส่งสัญญาณกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น หรือ อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดอาจ “Sell on Fact” การแข็งค่าขึ้นของทั้งเงินยูโรและเงินปอนด์ในช่วงที่ผ่านมา กดดันให้ทั้งสองสกุลเงินอ่อนค่าลง และช่วยให้เงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ทำให้เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sideways หรืออ่อนค่าเล็กน้อยกลับสู่โซน 32.85 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ เราเริ่มเห็นผู้เล่นต่างชาติปรับมุมมองต่อค่าเงินบาทในระยะสั้น หลังเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นต่างชาติบางส่วนรอจังหวะเงินบาทแข็งค่าทดสอบแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ในการทยอยขายทำกำไร Short USDTHB และอาจเริ่มปรับมุมมองเป็นเงินบาทอาจอ่อนค่าลง (เพิ่มสถานะ Long USDTHB) ทำให้เราคงมองว่า เงินบาทอาจยังไม่หลุดแนวรับสำคัญได้ง่ายนักในระยะสั้นนี้

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.55-32.85 บาท/ดอลลาร์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน ก่อนที่ดัชนี S&P500 จะสามารถปิดตลาด +1.05% โดยในช่วงแรกดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างปรับตัวลดลง หลังจากเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย +0.25% สู่ระดับ 4.50%-4.75% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นแรง ในช่วง Press Conference ของประธานเฟด หลัง ประธานเฟดได้ระบุว่า เริ่มเห็นการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ อีกทั้ง ประธานเฟดก็ไม่แสดงความกังวลต่อภาวะการเงิน (Financial Conditions) ที่ผ่อนคลายลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

สะท้อนผ่านการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์   ซึ่งท่าทีดังกล่าวของประธานเฟดได้หนุนให้บรรดาผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.00% ก่อนที่จะลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 4.50% ได้ในช่วงปลายปีนี้

อย่างไรก็ดี ในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ย่อตัวลงเล็กน้อย -0.03% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอประเมินผลการประชุมของบรรดาธนาคารกลางหลัก ก่อนที่จะปรับสถานะการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารกลาง

 หลังเริ่มมีการประกาศผลประกอบการที่ดีกว่าคาด (BBVA +4.7%, Intesa Sanpaolo +1.8%) อย่างไรก็ดี แนวโน้มผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์บางส่วนที่อาจแย่ลง ได้กดดันให้หุ้นใหญ่ในกลุ่มเฮลท์แคร์ต่างปรับตัวลง นำโดย Novartis -2.7%, Roche -2.2%

ส่วนทางด้านตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงราว -10bps สู่ระดับ 3.42% (บอนด์ยีลด์ 2 ปี และ 5 ปี สหรัฐฯ ต่างก็ปรับตัวลงราว -10bps เช่นกัน) หลังตลาดตอบรับในเชิงบวกต่อถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ระบุว่า เงินเฟ้อเริ่มมีการชะลอตัวลง

เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจตอบรับต่อถ้อยแถลงของประธานเฟดมากเกินไป เนื่องจาก เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง และมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงช้าได้ หากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและตึงตัว ซึ่งทำให้ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานในวันศุกร์นี้อาจส่งผลให้ตลาดการเงิน โดยเฉพาะตลาดบอนด์กลับมาผันผวนได้ ทั้งนี้ แม้เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อการลงทุนในบอนด์ ทว่านักลงทุนก็ควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยเพิ่มสถานะการลงทุน

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดย ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลงราว -1% สู่ระดับ 101 จุด หลังผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังการลดดอกเบี้ยลงของเฟดในช่วงปลายปี ตามแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวลง

นอกจากนี้ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดยังหนุนให้ ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะลดการถือครองเงินดอลลาร์ลงเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า เงินดอลลาร์ยังคงมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนสูงในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ

ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันนี้ รวมถึงรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ช่วยหนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) รีบาวด์ขึ้นกว่า +30 ดอลลาร์ จากช่วงตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด สู่ระดับ 1,969 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเรามองว่า การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ อาจทำให้ผู้เล่นบางส่วนทยอยขายทำกำไร ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาอย่างใกล้ชิด คือ ผลการประชุมของอีกสองธนาคารกลางหลัก ทั้ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยเราประเมินว่า แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่ดีขึ้นกว่าคาด

 หลังวิกฤตพลังงานไม่ได้รุนแรงอย่างที่เคยกังวล (สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของยูโรโซนที่ออกมาดีกว่าคาด) ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนและอังกฤษยังอยู่ในระดับที่สูงมาก ทำให้ทั้ง ECB และ BOE ตัดสินใจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย +0.50% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) ของ ECB ปรับขึ้นสู่ระดับ 2.50%

ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Bank Rate) ของ BOE จะปรับขึ้นสู่ระดับที่สูงถึง 4.00% ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะจับตามุมมองของทั้ง ECB และ BOE ต่อแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินในอนาคต โดยเฉพาะในประเด็นอัตราการขึ้นดอกเบี้ย ว่าจะมีการชะลอลงหรือไม่ และ Terminal Rate จะอยู่ที่ระดับใด

และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจและผลการประชุมเฟดดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะรายงานผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ อย่าง Amazon, Apple, Alphabet เป็นต้น ซึ่งหากรายงานผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจช่วยหนุนให้บรรยากาศในตลาดการเงินสามารถอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่องได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 32.70 มาเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 32.65-32.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ (8.30 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาท สกุลเอเชีย และสกุลเงินหลักแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ และการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ไปที่กรอบ 4.50-4.75% ตามที่ตลาดคาด

ทั้งนี้แม้เฟดจะส่งสัญญาณคุมเข้มต่อเนื่อง แต่มุมมองที่ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณชะลอลงนั้น ก็ทำให้ตลาดประเมินว่า รอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอาจกำลังใกล้ที่จะสิ้นสุดลงแล้ว

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 32.60-32.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม ECB และ BOE ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชีย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบด้วย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค.

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023” เปิดฉากทางการแชมป์แกรนด์สแลมร่วมแจม-ดาวรุ่งไทยได้ประสบการณ์

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ทัวร์นาเมนท์ ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ Thailand Open 2023 presented by E@ (ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ) ณ เซ็นเตอร์คอร์ต ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2566 โดยมี นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมด้วย

 บรรยากาศในพิธีเปิดดำเนินไปอย่างชื่นมื่น ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย มีแฟนเทนนิสทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาร่วมชมการแสดงในพิธีเปิดด้วย โดยเป็นการแสดงวงโยธวาธิต จาก โรงเรียนวังไกลกังวล และการแสดงศิลปะมวยไทย จากโรงเรียนนายสิบทหารบก หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนเข้าสู่พิธีการ โดยนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบพวงมาลัยให้แก่ 2 นักเทนนิสคนดังที่ร่วมในพิธีเปิดด้วยคือ “เบียนก้า อันเดรสคู” จากแคนาดา แชมป์หญิงเดี่ยวแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น 2019 มือ 42 ของโลก และ “ดายาน่า ยาสเตร็มสก้า” จากยูเครน เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น ปี 2019 และมือ 103 ของโลก

 ในงานยังได้รับเกียรติจาก นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จ.ประจวบคีรีขันธ์, นายวสุ กลมเกลี้ยง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน), น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด, นายนฐา ชมเสวี ผู้จัดการทั่วไป ทรูอารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ และสวนน้ำ วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน

 น.ส.ชลิดา ไชยสงคราม​ รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารออมสิน, นางสุภาภรณ์ ปรีเปรม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าแบรนด์ Wilson, นายวิษณุ วงศ์สุมิตร กรรมการผู้จัดการ บางจาก รีเทล จำกัด, น.ส.ยุพธิดา แสงรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม ไอบิส หัวหิน, มร.โธมัส เฮน ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมฮอลิเดย์ อิน วานา นาวา หัวหิน, มร.เฉิน ชู WTA Supervisor, มร.ชาร์ลส์ ซุง President of APG และ นายภราดร ศรีชาพันธุ์ กับ มร.แกรนต์ คาปิโอ ผู้อำนวยการการแข่งขันร่วม

 ขณะที่คู่เปิดสนามภายหลังจากพิธีเปิดการแข่งขันเป็นเมนดรอว์ ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก (32 คน) “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี นักหวดสาวดาวรุ่งไทยวัย 18 ปี ที่ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 365 ของโลกจากการคว้าแชมป์รายการไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต พรีเซนเต็ด บาย เอสเอที เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ลงประเดิมศึกใหญ่ระดับ WTA ครั้งแรก ในฐานะนักหวดไวลด์การ์ด หรือสิทธิพิเศษเข้าร่วมการแข่งขัน พบกับ มิเรียม บียอร์กลุนด์ วัย 24 ปีจากสวีเดน มือ 153 ของโลก โดยผลการแข่งขัน ปรากฏว่า ลัลนาหวดสู้กับ มิเรียม บียอร์กลุนด์ อย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของนักหวดสวีเดนได้ ก่อนพ่ายไป 0-2 เซต 2-6 และ 4-6 ใช้เวลาการแข่งขันขัน 1 ชั่วโมง 17 นาที

 “รวงข้าว” ตกรอบแรก แต่ได้ประสบการณ์ในรายการระดับโลก และยังได้เงินรางวัลปลอบใจ 2,804 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 91,748 บาท และคะแนน 1 แต้ม ส่วน มิเรียม บียอร์กลุนด์ ผ่านเข้าสู่รอบ16 คนสุดท้ายไปพบ หวัง ซินหยู มือวาง 7 จากจีน ที่ชนะ โจแอนน์ ซูเกอร์ จากสวิตเซอร์แลนด์ 2-0 เซต 6-2, 6-2

 สรุปผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก (32 คน) จู หลิน (จีน) ชนะ ซิหยู หวัง (มือวาง 3-จีน) 4-6, 6-3, 6-3 ซู จอง จาง (เกาหลีใต้) ชนะ เคตี้ โบลเตอร์ (สหราชอาณาจักร) 6-3, 4-6 และ 6-3 เลเซีย ซูเรนโก้ (ยูเครน) ชนะ อีซาลิน โบนาวองตูร์ (เบลเยียม) 6-3, 4-6 และ 6-4 ทามาร่า ซีดานเชค (สโลวีเนีย) ชนะ แอสตร้า มาร์มา (ออสเตรเลีย)  6-2, 6-3

 หญิงคู่ รอบแรก (16 คู่) ลักษิกา คำขำ-เพียงธาร ผลิพืช ชนะ แฮร์เรียต ดาร์ท-เฮทเธอร์ วัตสัน (สหราชอาณาจักร) 6-7 (3-7), 6-4 และซูเปอร์ไทเบรก 10-6 ลาทิชา เชน-อเลซ่า กัวราชี (คู่มือวาง 4 ไต้หวัน-ชิลี) ชนะ นาโอะ ฮิบิโนะ (ญี่ปุ่น)-อีรีน่า โครมาเชว่า 5-7, 6-3 และซูเปอร์ไทเบรก 10-7

 การแข่งขันครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่รับการสนับสนุนจาก สมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง (WTA), สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์  จำกัด (มหาชน), บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท แคล-คอมพ์   ออโตเมชั่น แอนด์ อินดัสเทรียล 4.0 เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด, ธนาคารออมสิน, บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด โดยเครื่องดื่มอัดลมทางเลือกเพื่อสุขภาพ 100 พลัส, ไอเอชจี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท, บริษัท ช การช่าง จำกัด (มหาชน)

 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน), บี กริม, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีเคพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน), APG สปอร์ต เอเจนซี่, ซูเปอร์สปอร์ต ในเครือเซ็นทรัลรีเทล ร้านค้ากีฬาอันดับหนึ่งของประเทศไทย ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Wilson, กลุ่มบริษัท พราว, โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท,โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท, ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ, เดอะ เลเจนด์ อารีน่า หัวหิน,  สวนน้ำ วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน, สวนน้ำ อันดามันดา ภูเก็ต, บลูพอร์ต หัวหิน, อินทนิล, Sixt

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ปวดหัว อาการปวดหัวแบบไหน ถึงเรียกว่า “ผิดปกติ”

ไม่ว่าใคร อายุเท่าไร เพศอะไร ก็ปวดหัวได้ ปัจจัยที่จะทำให้เกิดอาการปวดหัวก็มีมากมายหลายประการ จนคุณอาจไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

นอกจากความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือปวดศีรษะจากอาการไม่สบาย เป็นไข้แล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว และอาการปวดหัวก็มีหลายแบบเสียด้วย แบบไหนอันตรายถึงขั้นพาราเซตามอลก็ไม่ช่วยอะไร มาดูกันค่ะ 

สาเหตุของอาหารปวดหัว ที่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยตัวเอง

  • เครียด วิตกกังวล ทำงานหนักจนเกินไป
  • ใช้สายตาเพ่งจ้องสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป เช่น จ้องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งโทรทัศน์
  • อ่านหนังสือ ใช้งานคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตในที่ๆ มีแสงสว่างไม่เพียงพอ
  • รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจมาจากการดื่มกาแฟมากเกินไป (มากกว่า 2 แก้วต่อวัน)
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึกตื่นสาย
  • ปวดหัวจากการมีไข้ ไม่สบาย

โดยอาการปวดหัวจากสาเหตุตามด้านบน จะเป็นอาการปวดหัวตื้อๆ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเล็กน้อย เช่น ทำงานต่อไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก แต่ยังสามารถทนอาการได้ ทานยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอล หรือแอสไพริน และนอนพักผ่อนสักพักก็หายเป็นปกติ 

แต่หากมีอาการปวดหัวตามลักษณะนี้ อาจมีความปกติที่จำเป็นจะต้องพบแพทย์

  • ปวดหัวมาก อาจจะปวดหัวข้างเดียว ลามไปถึงกระบอกตา หน้ามืด
    สาเหตุ อาจมาจากปวดหัวไมเกรน หรือต้อหินเฉียบพลัน
  • ปวดหัวหลายครั้งจนเกินไป มากกว่า 1 ครั้งใน 1 อาทิตย์ และปวดต่อเนื่องเป็นเดือนๆ
    สาเหตุ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท
  • ปวดหัวรุนแรงแบบทนอาการไม่ได้ พร้อมด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียน ตาพร่ามัว
    สาเหตุ เป็นไปได้หลายอย่าง อาจจะมีเลือดออกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือมีความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งในสมอง
  • ปวดหัวหลังตื่นนอนตอนเช้า ปวดหัวจนต้องสะดุ้งตื่น
    สาเหตุ นอกจากความเครียดแล้ว ยังอาจเป็นเนื้องอกในสมอง
  • ปวดหัวรุนแรง พร้อมอาการคอแข็ง
    สาเหตุ การมีอาการติดเชื้อในระบบประสาท เช่น ติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง
  • ปวดหัว และมีอาการมึนงง สับสน พูดไม่รู้เรื่อง ดูไม่มีสติ หรือหมดความรู้สึกไป
    สาเหตุ อาจเป็นโรคหลอดเลือดสมองอักเสบ
  • ปวดหัวหลังจากศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน
    สาเหตุ อาจมีอาการเลือดคั่งในสมองจากอุบัติเหตุ
  • ไม่ค่อยปวดหัว แต่จู่ๆ ก็ปวดหัวขึ้นมา และมีอาการรุนแรง
    สาเหตุ อาจมีปัญหาในระบบประสาทและสมองเฉียบพลัน

อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกว่าอาการปวดหัวลุกลาม หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากจนเกินไป ควรรีบพบแพทย์โดยไม่ต้องรอให้เกิดอาการปวดหัวจะดีกว่าค่ะ เพราะอาการปวดหัวเป็นอาการเริ่มต้นของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มากมาย เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายอันดับต้นๆ ดังนั้นอย่ารอจนสายเกินไปนะคะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รวมประโยคเกี่ยวกับอาการแพ้ชนิดต่างๆในภาษาจีนกลาง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “สุขภาพ” และ “การเจ็บไข้ได้ป่วย” เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนทุกวัย ในการเรียนภาษาต่างๆเราจึงควรเรียนรู้คำศัพท์สำคัญในหมวดนี้ไว้เผื่อไว้ใช้สื่อสารยามฉุกเฉิน สำหรับการเรียนภาษาจีนกลางก็เช่นกันค่ะ ในบทความนี้ สถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์ จึงขอนำเสนอคำศัพท์เกี่ยวกับอาการแพ้ (allergies) ชนิดต่างๆ เพราะถึงแม้ตัวเราจะไม่ได้แพ้อะไร แต่การรู้คำศัพท์เหล่านี้ไว้ก็อาจช่วยชีวิตคนอื่นในยามฉุกเฉินได้ค่ะ

โรคภูมิแพ้ ภาษาจีนเรียกว่า 过敏症 guòmǐn zhèng (กั้วหมิ่นเจิ้ง)

ถ้าต้องการบอกว่าตัวเองแพ้อะไรก็สามารถใช้รูปประโยคง่ายๆว่า

我 (หว่อ)   对 (ตุ้ย)  +  สิ่งที่แพ้  +  过敏 (กั้วหมิ่น)

แปลว่า

“ฉันแพ้……”

ตัวอย่าง

คำถาม
> คุณแพ้อะไรไหม?

你对什么过敏吗?

Nǐ duì shénme guòmǐn ma?

หนี่ตุ้ยเฉินเมอะกั้วหมิ่นมา?

> คุณแพ้อาหารอะไรไหม?

你对什么食物过敏吗?

Nǐ duì shénme shíwù guòmǐn ma?

หนี่ตุ้ยเฉินเมอะฉืออู้กั้วหมิ่นมา?

คำตอบ
> ฉันแพ้ถั่วลิสง

我对花生过敏。

Wǒ duì huāshēng guòmǐn.

หว่อตุ้ยฮวาเชิงกั้วหมิ่น

*ถ้าอยากเน้นว่ามีอาการแพ้รุนแรงมาก ให้ต่อท้ายประโยคด้วยคำว่า 很严重 (เหิ่นเหยียนจ้ง) เช่น


> ฉันแพ้ถั่วลิสงรุนแรงมาก

我对花生过敏很严重。

Wǒ duì huāshēng guòmǐn hěn yánzhòng.

หว่อตุ้ยฮวาเชิงกั้วหมิ่นเหิ่นเหยียนจ้ง

เหล่าซือหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อ ทำงาน หรือท่องเที่ยวประเทศจีนนะคะ โอกาสหน้าเหล่าซือจะรวบรวมคำศัพท์และประโยคภาษาจีนน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพมาฝากกันอีก รับรองว่าอ่านแล้วสามารถนำไปใช้สื่อสารกับชาวจีนได้ทันที ผู้ที่สนใจสามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์และ facebook ของ สถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์ ค่ะ 🙂 


“ฉันแพ้……” ภาษาจีนพูดว่าอะไร?

รวมอาการแพ้ชนิดต่างๆในภาษาจีนพร้อมคำอ่านภาษาไทย

1. ฉันแพ้ถั่วลิสง 

我对花生过敏。

Wǒ duì huāshēng guòmǐn.

หว่อตุ้ยฮวาเชิงกั้วหมิ่น

2. ฉันแพ้ผงชูรส

我对味精过敏。

Wǒ duì wèijīng guòmǐn.

หว่อตุ้ยเว่ยจิงกั้วหมิ่น

3. ฉันแพ้กุ้ง

我对虾过敏。

Wǒ duì xiā guòmǐn.

หว่อตุ้ยเซียกั้วหมิ่น

4. ฉันแพ้อาหารทะเล

我对海鲜过敏。

Wǒ duì hǎixiān guòmǐn.

หว่อตุ้ยห่ายเซียนกั้วหมิ่น

5. ฉันแพ้นมวัว

我对牛奶过敏。

Wǒ duì niúnǎi guòmǐn.

หว่อตุ้ยหนิวหน่ายกั้วหมิ่น

6. ฉันแพ้ไข่ไก่

我对鸡蛋过敏。

Wǒ duì jīdàn guòmǐn.

หว่อตุ้ยจีตั้นกั้วหมิ่น

7. ฉันแพ้ถั่วเหลือง

我对大豆过敏。

Wǒ duì dàdòu guòmǐn.

หว่อตุ้ยต้าโต้วกั้วหมิ่น

8. ฉันแพ้ฝุ่น

我对灰尘过敏。

Wǒ duì huīchén guòmǐn.

หว่อตุ้ยฮุยเฉินกั้วหมิ่น

9. ฉันแพ้เกสรดอกไม้

我对花粉过敏。

Wǒ duì huāfěn guòmǐn.

หว่อตุ้ยฮวาเฝิ่นกั้วหมิ่น

10. ฉันแพ้อากาศเย็น

我对冷空气过敏。

Wǒ duì lěng kōngqì guòmǐn.

หว่อตุ้ยเหลิ่งคงชี่กั้วหมิ่น

11. ฉันแพ้ยา

我对药物过敏。

Wǒ duì yàowù guòmǐn.

หว่อตุ้ยเย่าอู้กั้วหมิ่น

12. ฉันแพ้ยาแอสไพริน

我对阿司匹林过敏。

Wǒ duì ā sī pǐ lín guòmǐn.

หว่อตุ้ยอาซือผีหลินกั้วหมิ่น

13. ฉันแพ้ยาเพนิซิลลิน

我对盘尼西林过敏。

Wǒ duì pán ní xī lín guòmǐn.

หว่อตุ้ยผานหนีซีหลินกั้วหมิ่น


อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัว International Product Innovation Center และ Partner Management Center แห่งแรก

บริษัทฯ ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับสูงสุด พร้อมส่งเสริมการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลให้ลูกค้าในประเทศสิงคโปร์ทั้งด้านค้าปลีก โลจิสติกส์ และเกม

อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป เปิดตัวศูนย์นวัตกรรมระดับนานาชาติด้านผลิตภัณฑ์ (Product Innovation Center) และศูนย์บริหารจัดการด้านพันธมิตร (Partner Management Center) เป็นครั้งแรก ณ งาน Alibaba Cloud Singapore Summit 2023 เพื่อยกระดับการบริการลูกค้า และให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Product Innovation Center แห่งใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนโรดแมปด้านการพัฒนาโซลูชันให้เจาะจงเฉพาะตลาดมากขึ้น และจะดูแลการบริหารจัดการด้านการอัปเกรดผลิตภัณฑ์ให้ทันกับความต้องการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าทั่วโลก ส่วน Partner Management Center จะเน้นด้านความร่วมมือในแต่ละท้องถิ่นหรือแต่ละประเทศ เพื่อให้เกิดการแบ่งปันเทคโนโลยีระดับแนวหน้าและความเชี่ยวชาญด้านโดเมนระหว่างพันธมิตรต่าง ๆ อย่างเข้มข้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศได้อย่างตรงจุด

การเปิดตัวศูนย์ทั้งสองนี้ไม่เพียงสร้างโอกาสการทำงานให้กับผู้มีความสามารถในประเทศสิงค์โปร์เท่านั้น แต่จะช่วยขยายความร่วมมือในประเทศอื่น ๆ ผ่านการสร้าง Innovation Accelerator Program เพื่อสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ให้ขยายตัวตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก

Innovation Accelerator Program มีจุดประสงค์ในการนำผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในอุตสาหกรรมมารวมตัวกัน เพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้น และสร้างความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจในประเทศสิงคโปร์ผ่านการแบ่งปันทักษะและแนวคิดต่าง ๆ ที่ใช้งานได้จริง และช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีคลาวด์ล่าสุดต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ บริษัทแต่ละแห่งที่เข้าเกณฑ์ของโปรแกรมนี้จะได้รับการฝึกอบรมและการสนับสนุนทางเทคโนโลยีจากอาลีบาบา คลาวด์ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากโปรแกรมนี้จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและสนับสนุนด้านนวัตกรรมแก่องค์กรธุรกิจผ่านการเพิ่มทักษะ การฝึกอบรม และการอัปเกรดทางเทคโนโลยีแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้เชื่อมโยงเข้ากับระบบนิเวศที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาทั่วโลกของอาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจต่าง ๆ เดินหน้าค้นพบและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการเติบโตที่คาดหวังไว้ไม่เพียงในประเทศที่บริษัทตั้งอยู่เท่านั้น แต่เป็นความสำเร็จในระดับสากล

ดร. หวัง เจี้ยน สมาชิกของ Chinese Engineering Academy และผู้ก่อตั้งอาลีบาบา คลาวด์ กล่าวว่า “ปัจจุบันเราอยู่ในระยะเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัล ในอีกห้าหรือสิบปีต่อจากนี้ การใช้คอมพิวเตอร์และการประมวลผลจะเป็นตัวขับเคลื่อนและเป็นตัววัดผลทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นเศรษฐกิจของการประมวลผลและคลาวด์คอมพิวติ้ง และจะมีบทบาทในยุคของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เหมือนกับที่กระแสไฟฟ้าเคยมีบทบาทสำคัญในยุคของการพัฒนาพลังงานไฟฟ้า คลาวด์กำลังกลายเป็นแนวทางที่ใช้ไม่เฉพาะกับคลาวด์คอมพิวติ้งเท่านั้น แต่เป็นวิธีการที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ในการทำงาน”

อาลีบาบา คลาวด์จะส่งเสริมกลยุทธ์การทำธุรกิจที่ยั่งยืน ด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อช่วยเหลือบริษัททั่วโลกจำนวน 10,000 แห่งเพื่อให้บริษัทเหล่านั้นมุ่งสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนได้อย่างรวดเร็วในอีกสามปีข้างหน้า ทั้งนี้องค์กรในสิงคโปร์จะได้ร่วมโครงการนำร่อง Energy Expert เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน Energy Expert เป็นแพลตฟอร์มด้านความยั่งยืนลักษณะ software-as-a-service ที่อาลีบาบา คลาวด์ เป็นเจ้าของและเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 จะช่วยวัด วิเคราะห์ และบริหารจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากกิจกรรมและการผลิตของธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลเชิงลึกและให้คำแนะนำด้านการประหยัดพลังงานแก่บริษัทต่าง ๆ เพื่อช่วยให้บริษัทเหล่านั้นบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

คุณเซลินา หยวน รองประธาน อาลีบาบา กรุ๊ป และประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศ อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “การจัดตั้ง International Product Innovation Center และ Partner Management Center ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ระดับโลกของอาลีบาบา คลาวด์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลของธุรกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ความคิดริเริ่มนี้และการเสริมแกร่งให้กับบุคลากรที่มีความสามารถของเรา ยังเป็นการย้ำให้เห็นว่าเราสนับสนุนลูกค้าทั่วโลกด้วยความมุ่งมั่นอย่างสูงที่จะเพิ่มและยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรมของลูกค้า และให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน”

ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ระดับสูงสุดจาก CSA

ความพยายามอย่างต่อเนื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งของอาลีบาบา คลาวด์ คือการนำเสนอบริการและข้อเสนอที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ให้กับธุรกิจ ซึ่งรวมถึงความปลอดภัยและการป้องกันภัยไซเบอร์ที่รัดกุมขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ อาลีบาบา คลาวด์ ได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Cyber Trust (Advocate) โดยมาตรฐาน Cyber Trust ที่พัฒนาโดย Cyber Security Agency of Singapore (CSA) นี้มีเป้าหมายช่วยองค์กรดิจิทัลหรือองค์กรขนาดใหญ่ให้สื่อสารเรื่องการลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรในแง่มุมที่เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันและสร้างความเชื่อถือจากลูกค้า

การได้รับมาตรฐาน Cyber Trust (Advocate) ซึ่งเป็นการรับรองระดับสูงสุดนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความทุ่มเทของอาลีบาบา คลาวด์ ในการนำเสนอบริการที่เชื่อถือได้ให้กับธุรกิจต่าง ๆ ใช้ในการบริหารจัดการและปกป้องโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของตน

สนับสนุนการเติบโตของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีที่ใช้สร้างสรรค์สิ่งใหม่

อาลีบาบา คลาวด์ ได้ช่วย Gadget MIX ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกในประเทศสิงคโปร์ที่มีร้านค้ามากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ มีภาพลักษณ์ด้านอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่ง และเน้นผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่เป็นเทคโนโลยีระดับสูง สามารถทรานส์ฟอร์มกลยุทธ์ด้านค้าปลีกด้วยโซลูชันคลาวด์รูปแบบใหม่ ๆ ความร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยให้ Gadget MIX เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการสื่อสารภายใน ดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวมากขึ้น และโยกย้ายการทำงานไปใช้คลาวด์ได้อย่างราบรื่น เพื่อให้สามารถทรานส์ฟอร์มธุรกิจได้เร็วขึ้น

นายเรย์ ยู ซีอีโอของ Gadget MIX กล่าวว่า “โซลูชันของอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยลดต้นทุนรวมและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ทำให้เราทรานส์ฟอร์มธุรกิจได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ DingTalk ช่วยปรับปรุงการจัดการเวิร์กโฟลว์และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ตลอดจนการสื่อสารภายในและธุรกิจของเรา การทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลที่ทำร่วมกับอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้ารายย่อย และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันด้วยกันอีกในอนาคต”

Project Twelve (P12) เป็นแพลตฟอร์มเกมในรูปแบบ web3 และมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ใช้โซลูชันที่ช่วยเร่งความเร็วเกม และผลิตภัณฑ์ด้านควาปลอดภัยของอาลีบาบา คลาวด์ เช่น Game Shield และ Anti-DDoS ส่งผลให้ปัจจุบันสามารถเน้นไปที่การพัฒนาเกมที่ปรับขนาดได้ พร้อมกับมอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้ด้วยการลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ นอกจากนี้ P12 ยังใช้ PolarDB ซึ่งเป็นคลาวด์เนทีฟดาต้าเบสของอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อลดเวลาที่ใช้ในการดูแลและเพิ่มระดับความน่าเชื่อถือในการทำงานได้ดีอย่างสม่ำเสมอ จึงสามารถสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลให้กับเหล่าเกมเมอร์

Boyang ผู้ก่อตั้ง Project Twelve กล่าวว่า “ประสบการณ์การเล่นเกมอย่างปลอดภัยที่ผู้ใช้มีความมั่นใจมากขึ้นบนแพลตฟอร์ม P12 ทำให้เราสามารถมุ่งเน้นการทำงานของเราไปที่การยกระดับแพลตฟอร์มด้วยเกมที่มีคุณภาพต่าง ๆ และเศรษฐกิจแบบยั่งยืนในอุตสาหกรรม web3 gaming ที่ไดนามิกและเคลื่อนไหวรวดเร็วได้มากขึ้น โซลูชันของอาลีบาบา คลาวด์ ได้ช่วยให้เรามอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและปรับขนาดได้ตามความต้องการในระดับสูงสุด มีความพร้อมใช้งานสูงและมีลาเทนซีต่ำให้แก่ผู้ใช้ของเรา”

สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ที่คึกคัก และโลจิสติกส์กำลังเป็นหนึ่งในแกนหลักสำคัญของเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น อาลีบาบา คลาวด์ จึงได้ทำงานร่วมกับองค์กรด้านโลจิสติกส์หลายแห่ง เพื่อสนับสนุนการทรานส์ฟอร์มสูดิจิทัล เช่น JUSTI Pte. Ltd. (JUSTI) บริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนแห่งหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ที่มีพอร์ตการลงทุนสำคัญมากมายรวมถึงการดำเนินงานด้าน last mile delivery หรือการส่งสินค้าจากผู้ขายถึงมือผู้รับปลายทางโดยตรง โซลูชันของอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยให้องค์กรด้านโลจิสติกส์ปรับสู่ดิจิทัลและเพิ่มความคล่องตัวให้กับเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายลี เชามิง กรรมการผู้จัดการของ JUSTI กล่าวว่า “ความสามาถในการแก้ปัญหาการจัดเส้นทางสำหรับยานพาหนะ (VRP) ที่ติดตั้งไว้เบ็ดเสร็จในโซลูชัน EasyDispatch ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการจัดส่งภาคสนามแบบเรียลไทม์ การใช้เทคโนโลยีของอาลีบาบา คลาวด์ ทำให้เรามีทัศนวิสัยและการควบคุมขั้นตอนวงจรการจัดส่งในแต่ละขั้นตอนได้ดีขึ้น เช่น การติดตามสถานะพัสดุ การวางแผนเส้นทางและการจัดตารางงานด้วย AI แบบเรียลไทม์ เป็นต้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าของเราได้อย่างมาก”

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


แต่งบ้านให้มีสไตล์ด้วยกระเบื้องหินจาก PRODIGY DESIGN ที่งานสถาปนิก’66

บางคนอาจจะคิดว่าสีดำนั้นเป็นสีที่ไม่เหมาะสมต่อการนำมาตกแต่งที่พักอาศัยแต่ในปัจจุบัน “สีดำ” กลับกลายเป็นสีที่นิยมนำมาใช้มากที่สุดเพราะสีดำเป็นสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหากเป็นกระเบื้องสีดำแล้วจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้สีดำดูเงาสวยมากยิ่งขึ้น บริษัท โพรดิจี้ ดีไซน์ จำกัด บริษัทนำเข้ากระเบื้องสำหรับตกแต่งทั้งภายนอกและภายในพร้อมนำเสนอ Black Terrazzo หินเทียมขัดหน้าสำเร็จที่ให้ความรู้สึกสุขุม นุ่มลึก และสนุกสนาน และ Sintered Stone หินสังเคราะห์ที่จะมอบความรู้สึก เรียบหรู มีสไตล์ และคลาสสิกให้กับคุณ

BEST IN BLACK “สุขุม นุ่มลึก สนุกสนาน” กับ “Black Terrazzo”

หินเทียมสีดำที่ผ่านกระบวนการขัดหน้าสำเร็จด้วยกรรมวิธีที่ทันสมัย ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องรอยคลื่น สัมผัสเนื้อกระเบื้องได้โดยไม่สะดุดมือ โทนสีดำมักจะให้ความรู้สึก สุขุม นุ่มลึก แต่เมื่ออยู่ในภาพลักษณ์เทอร์ราซโซแล้วสีดำจะถูกแสดงให้เห็นถึงความสนุกสนานในตัวเองแต่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ว่าจะคู่กับวัสดุหรือสีอื่นๆ แต่เทอร์ราซโซสีดำไม่ได้มีแค่สีดำเพราะ Black Terrazzo ออกแบบมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมดถึง 6 ลวดลาย

BEST IN BLACK

  • PD-T071 Renata field black
  • PD-T051 Oreo
  • PD-T084 Galaxy star
  • PD-T072 Nero fantasia
  • PD-T088 Nero tropicale
  • PD-T046 Blood moon

Modern Luxury Black “เรียบหรู มีสไตล์ คลาสสิก” กับ “Sintered Stone”

นอกจาก Black Terrazzo แล้วโพรดิจี้ ดีไซน์ยังแนะนำ Sintered Stone หินสังเคราะห์นวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และกระเบื้อง Sintered Stone เองก็มีลวดลายสีดำที่ให้ความเรียบหรูแบบคลาสสิกสำหรับคนที่ชอบการตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น

หาสีดำที่ใช่ไปกับ “Black Terrazzo” และ “Sintered Stone” กระเบื้องหินจาก PRODIGY DESIGN ที่งานสถาปนิก’ 66

โพรดิจี้ ดีไซน์ยังมีกระเบื้องหินมากมายให้ทุกคนได้เลือกสรร พบกับกระเบื้องตกแต่งบ้านลวดลายต่างๆ ได้ที่บูธหมายเลข S213/1 ในงานสถาปนิก’ 66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

สำหรับผู้สนใจจองพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ที่ https://architectexpo.com/2023/en/about-the-expo/#space-reservation หรือ โทร. 02-717-2477 อีเมล info@TTFintl.com

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 2/02/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a30,100.0030,200.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,950.0029,562.0030,700.00
ทองรูปพรรณ 90%1,755.0026,605.80n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,560.0023,649.60n/a
ทองรูปพรรณ 50%878.0013,310.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%683.0010,354.28n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,021.0030,638.36n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 2/02/2566



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.9535.9537.1535.9535.9535.9535.9535.9535.9535.95
แก๊สโซฮอล์ 9135.6835.6836.8835.6835.6835.6835.6835.6835.6835.68
แก๊สโซฮอล์ E2034.0434.0435.2434.0434.0434.0434.0434.0434.04
แก๊สโซฮอล์ E8534.4934.4934.49
เบนซิน 9543.7643.8144.2644.2143.76
ดีเซล B734.9434.9435.5434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9435.5434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.5434.9434.9434.0434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6645.8644.2644.2634.94
แก๊ส NGV17.5917.5917.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า