วิชั่นนายกอสังหาฯฉะเชิงเทราชงปลดล็อกLTVลดดอกเบี้ย สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
เปิดวิชั่น “สืบวงษ์ สุขะมงคล”นายกอสังหาฯฉะเชิงเทรา ชงปลดล็อกLTVลดดอกเบี้ย สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพร้อมเผย 7 นโยบาย รับแผนพัฒนาโซนอีอีซีหวังฝ่าวิกฤต ยอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่งสะเทือนยอดโอน
สืบวงษ์ สุขะมงคล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทรา เผยว่า ในฐานะนายกสมาคมฯอยากผลักดันมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ด้วยการการผ่อนปรนมาตรการ LTV พร้อมทั้งลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้โอกาสคนที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 ได้รับสินเชื่อมากขึ้นจากธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะเดียวกันอยากให้รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชน มีความต้องการบ้านสูงกว่าเกินวงเงินที่รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เข้ามาเสริมนอกเหนือจากการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งจะหมดภายในปีนี้
พร้อมตั้งเป้าสานต่อนโยบายพัฒนาเมืองและขานรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) มุ่งเน้นให้ฉะเชิงเทราเป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว และน่าลงทุนเนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดยังคงมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว แม้ว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้จะ”หดตัว”ลงจากปัจจัยที่ลูกค้าถูกปฏิเสธสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
โดยนโยบายการทำงานจะมุ่งเน้น 7 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมฉะเชิงเทราเป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน ด้วยความเงียบสงบ การผสมผสานวิถีชีวิตเมืองและชนบท อีกทั้งความสะดวกในการเดินทางสู่กรุงเทพฯ และเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังภาคตะวันออก อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่เป็นที่ดึงดูดใจ เช่น วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตลาดน้ำบางคล้า และแม่น้ำบางปะกง
แก้ไขปัญหาแนวถนน
จัดการผังเมือง
บริหารจัดการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวและการขนส่งในแม่น้ำบางปะกง
รวมทั้งผลักดันมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยสนับสนุนนการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท และผ่อนปรนมาตรการ LTV เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
สืบวงศ์ ระบุว่า ศักยภาพการเติบโตของจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้มีโอกาสในการลงทุนสูง เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม เช่น รถไฟความเร็วสูง การเชื่อมต่อกับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ อุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงทำให้ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่น่าสนใจทั้งในการอยู่อาศัย ท่องเที่ยว และการลงทุน
“การเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจึงส่งผลให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันเนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยจากแรงงานและผู้บริหารในพื้นที่มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ เข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลายราย อาทิ ศุภาลัย บริทาเนีย “
สอดคล้องกับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,412 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 64% และมีมูลค่าเงินลงทุน 458,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% โดยการลงทุนในภาคตะวันออกมากที่สุด จำนวน 625 โครงการ คิดเป็น 44% ของจำนวนโครงการทั้งหมด เงินลงทุน 211,569 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเงินลงทุนทั้งหมด
อย่างไรก็ตามยอดโอนกรรมสิทธิ์ปี 2566 ที่ผ่านมา เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอบางปะกง ยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด 1,834 ยูนิต แบ่งเป็น ไตรมาส 1/2566 จำนวน 404 ยูนิต ไตรมาส 2/2566 จำนวน 411 ยูนิต ไตรมาส 3/2566 จำนวน 562 ยูนิต ไตรมาส 4/2566 จำนวน 457 ยูนิต
ทาวน์โฮมมียอดโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด จำนวน 577 ยูนิต คิดเป็น 31.46% แต่เมื่อดูจากจำนวนมูลค่าแล้ว บ้านเดี่ยวมีมูลค่าสูงที่สุด มูลค่า 2,226.06 ล้านบาท คิดเป็น 38.95% เมื่อเทียบกับยอดโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส 1/2567 จำนวน 303 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 951.68 ล้านบาท โดยบ้านแฝดมียอดโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดมีมูลค่า 365 ล้านบาท คิดเป็น 38.38%
“จะเห็นได้ว่ามีการลดลง เนื่องจากมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารสูง บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จึงทำให้ลูกค้าบางกลุ่มยกเลิก หรือตัดสินใจชะลอการโอนกรรมสิทธิ์”
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
‘นิคมโรจนะ’โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน
พิษเศรษฐกิจชะลอตัว! ทำเลเหลือขายภาคกลางเพิ่มขึ้น9,813 หน่วยมูลค่า3.1หมื่นล้าน โซนนิคมโรจนะเหลือขายพุ่ง1.7หมื่นล้าน ระดับราคาที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ2-3ล้านมีจำนวนถึง2,936หน่วยคิดเป็นมูลค่า7,666 ล้าน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมด จำนวน 10,327 หน่วย มูลค่า 33,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ร้อยละ 7.9 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 ตามลำดับ
โดยเป็นโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนเพียง 835 หน่วย มูลค่า 4,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ร้อยละ 56.4 และร้อยละ 193.0 ตามลำดับ ขณะที่ที่อยู่อาศัยเหลือขาย ณ ครึ่งแรกปี 2567 จำนวน 9,813 หน่วย มูลค่า 31,588 ล้านบาท จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.2 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
5 ทำเล ที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายมากที่สุดในภาคกลาง
อันดับ1 ทำเลนิคมฯโรจนะ จำนวน4,497หน่วยมูลค่า17,466 ล้านบาท
อันดับ 2 ทำเลนิคมฯบางปะอินจำนวน1,874หน่วยมูลค่า4,630ล้านบาท
อันดับ 3 ทำเลเมืองสระบุรี จำนวน 1,243 หน่วย มูลค่า 4,126 ล้านบาท
อันดับ 4 ทำเลวังน้อย จำนวน 967 หน่วย มูลค่า 2,242 ล้านบาท
อันดับ 5 ทำเลหนองแค จำนวน 706 หน่วย มูลค่า 1,824 ล้านบาท
โดยระดับราคาที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ 2-3ล้านบาท มีจำนวนถึง 2,936 หน่วย มูลค่า 7,666 ล้านบาท อุปสงค์โดยรวมภาคกลาง พบว่าในช่วงครึ่งแรกปี 2567 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 514 หน่วย ลดลงร้อยละ -63.4 มูลค่า 1,519 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -64.2 แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 372 หน่วย มูลค่า 1,279 ล้านบาท และอาคารชุดเพียง 142 หน่วย มูลค่า 240 ล้านบาท
ทำเลที่มีหน่วยขายได้ใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก
อันดับ1 ทำเลนิคมฯโรจนะ จำนวน 315 หน่วย มูลค่า 984 ล้านบาท
อันดับ2ทำเลนิคมฯบางปะอิน จำนวน 58 หน่วยมูลค่า128 ล้านบาท
อันดับ 3 ทำเลเมืองสระบุรี จำนวน 43 หน่วย มูลค่า 148 ล้านบาท
อันดับ 4 ทำเลวังน้อย จำนวน 41 หน่วย มูลค่า 113 ล้านบาท
อันดับ 5 ทำเลแก่งคอย จำนวน 21 หน่วย มูลค่า 40 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทวันนี้ 23 ก.ย. แข็งค่าหลุด33 บาท เตือนผู้นำเข้าปิดความเสี่ยง
ค่าเงินบาทอาจชะลอการแข็งค่า หากเงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นจริง รวมถึงนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองหุ้นไทย ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก)
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 23ก.ย. 2567 ที่ระดับ 32.93 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 33.06 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น จนทะลุโซนแนวรับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ที่เราประเมินไว้ได้สำเร็จ (แกว่งตัวในกรอบ 32.90-33.15 บาทต่อดอลลาร์)
หนุนโดยโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High) ได้ โดยราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงร้อนแรงอยู่ ขณะเดียวกันผู้เล่นในตลาดต่างคงคาดหวังว่าเฟดจะสามารถเร่งลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นทะลุแนวรับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ที่เราประเมิน ตามการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด แรงซื้อสินทรัพย์ไทยและโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และ ECB พร้อมรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของบรรดาเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ทั้ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (S&P Global Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนกันยายน รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ PCE เดือนสิงหาคม
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งล่าสุดจาก CME FedWatch Tool ผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า เฟดอาจเร่งลดดอกเบี้ย -50bps ได้ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน
▪ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Expectations) และ
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (IFO Business Climate) รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของอังกฤษด้วยเช่นกัน เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษและทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
▪ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ผ่านรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ อัตราเงินเฟ้อ CPI ของกรุงโตเกียว รวมถึงรอลุ้นผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค Liberal Democratic Party (LDP) คนใหม่
ซึ่งจะกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นด้วย ในส่วนของนโยบายการเงินนั้น ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.35% จนกว่าจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอลงกลับเข้าสู่เป้าหมาย 2%-3% ได้สำเร็จ
▪ฝั่งไทย – ควรรอลุ้นรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports & Imports) เดือนสิงหาคม และจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังดัชนี SET เริ่มมีความเสี่ยงอาจย่อตัวลงได้บ้างในระยะสั้น
อนึ่ง เงินบาทได้แข็งค่าหลุดโซน 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ตามที่เรากังวลไว้ในสัปดาห์ก่อน เปิดโอกาสให้เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นต่อทดสอบโซน 32.50-32.75 บาทต่อดอลลาร์ แต่เราคงมุมมองเดิมว่า ในเชิง Valuation การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าโซน 33 บาทต่อดอลลาร์นั้น ถือว่า เป็นระดับที่ Slightly Overvalued (Z-Score ของดัชนีค่าเงินบาท REER เกินระดับ +0.5)
หากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เงินบาทก็ไม่ควรแข็งค่าเกินระดับดังกล่าวไปมากนัก ทำให้ผู้ประกอบการอย่างฝั่งผู้นำเข้าควรเตรียมพร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
นอกจากนี้ เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ แต่เราเริ่มเห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นจริง รวมถึงนักลงทุนต่างชาติก็เริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทย
ส่วนราคาทองคำก็อาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ได้ร้อนแรงขึ้นชัดเจน อีกทั้ง ในเชิง valuation เงินบาทเริ่มเข้าสู่โซน Slightly Overvalued
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นบ้าง หากรายงานดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าข้อมูลจากประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ หรือ ในกรณีที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างประเมินภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เลวร้ายนัก
พร้อมย้ำจุดยืนทยอยลดดอกเบี้ยในลักษณะที่ใกล้เคียงหรือสอดคล้องกับคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด (Dot Plot) โดยเน้นประเมินสถานการณ์แต่ละการประชุม (Data Dependent) ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้เหมาะสม
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.60-33.30 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.80-33.00 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ในช่วงประมาณ 32.92-32.97 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.40 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 33.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ…
ทั้งนี้ แม้เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในฝั่งที่แข็งค่ากว่าแนว 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 19 เดือนครึ่งที่ 32.91 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาจากผลของการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งสะท้อนว่า เฟดยังมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่องในระยะข้างหน้า)
แต่กรอบการแข็งค่าของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลงบางส่วนในช่วงเช้าวันนี้ตามทิศทางของสกุลเงินเอเชีย นำโดย เงินเยนซึ่งอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังผู้ว่าการ BOJ มีท่าทีในเชิง Dovish หลังการประชุมนโยบายการเงินรอบ 19-20 ก.ย. ที่ผ่านมาซึ่งสะท้อนว่า BOJ จะยังไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.85-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์สกุลเงินในเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลข PMIs เบื้องต้นสำหรับเดือนก.ย ของอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อันตราย! ก้มยกของหนักผิดท่า เสี่ยงหมอนรองกระดูกปลิ้นไม่รู้ตัว
ยกของหนักผิดท่า! เสี่ยงหมอนรองกระดูกปลิ้นไม่รู้ตัว เร่งปรับพฤติกรรมก่อนสายเกินแก้กระดูกสันหลังเปรียบเสมือนแกนหลักของร่างกายที่คอยรับน้ำหนักตัวเรา และค้ำจุนการเคลื่อนไหว โดยปกติกระดูกสันหลังจะเสื่อมตามอายุ แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ยกของหนัก นั่งผิดท่า นั่งนาน ส่งผลให้กระดูกสันหลังเสื่อมก่อนวัยได้
นพ.วิศิษฐ์ แซ่ล้อ แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ เผยว่า ปัจจุบันพบว่า 1 ในสาเหตที่ทำให้มีผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ก็คือการก้มตัวไปหยิบของ หรือก้มแล้วยกของที่หนักในลักษณะท่าทางที่ผิด เพราะในคนที่ทำอยู่ซ้ำๆ เป็นประจำอาจมีความเสี่ยงที่เปลือกหุ้มหมอนรองกระดูกแตกทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาทได้
ขณะที่ท่ายกของหนักที่ถูกต้องให้เปรียบเทียบจากนักยกน้ำหนักในกีฬาที่เราเห็นกันทั่วๆ ไป หลักการของนักยกน้ำหนักที่ถูกต้องคือหลังตรง ใช้การย่อของข้อเข่าและสะโพกลงไป แล้วก็ยกน้ำหนักให้หลังตรง แต่ในทางกลับกันท่าการยกน้ำหนักไม่ใช่ท่าที่เราคุ้นเคยที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เราก็มักจะใช้การก้มหลังลงไป ซึ่งจังหวะนั้นเองที่จะทำให้เกิดแรงดันต่อหมอนรองกระดูกด้านหลัง และในอนาคตอาจส่งผลให้หมอนรองกระดูกที่อยู่ภายในเคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาทได้
อย่างไรก็ตามสามารถเช็กความเสี่ยงจากอาการปวดหลังของตัวเองได้ เช่นกรณีที่ 1 ถ้าก้มและรู้สึกตึงหลัง แต่ยังไม่ร้าวลงขากรณีนี้อาจเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อได้ แต่กรณีที่ 2 หากไปยกของหนักแล้วมีอาการร้าวลงขาอันนี้ใกล้เคียงกับปัญหาที่เกิดจากการกดทับเส้นประสาทที่ไม่เหมือนกับกรณีแรก นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ กรณีนี้ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
โดยทั่วไป แพทย์มักจะเริ่มต้นด้วยการตรวจ X-ray เพื่อดูโครงสร้างกระดูกสันหลังและตรวจหาความผิดปกติเบื้องต้น เช่น กระดูกแตกหัก หรือกระดูกเสื่อม อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดหลังของคุณมีอาการปวดร้าวลงขา มีอาการชาหรืออ่อนแรง สงสัยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกเส้นประสาท แพทย์อาจพิจารณาให้ทำ MRI เพิ่มเติม จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้แม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจาก X-ray ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูก MRI ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อเยื่อและระบบประสาท การใช้ข้อมูลจากทั้งสองวิธีร่วมกัน ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงในการอ่านและแปลผล X-ray และ MRI นอกจากนี้ เรายังมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้การวินิจฉัยมีความแม่นยำสูง
การรักษาปัจจุบัน โรงพยาบาลเอส สไปน์ ได้นำเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ทันสมัยมาใช้ในการรักษาโรคกระดูกสันหลัง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการบาดเจ็บหลังการรักษาแล้ว ยังช่วยลดระยะเวลาการพักฟื้นในโรงพยาบาลอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากไม่อยากเดินทางไปถึงจุดที่ต้องผ่าตัด แนะให้ปรับพฤติกรรม เช่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการควบคุมน้ำหนักตัว ก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะมันจะชะลอความเสื่อมได้ และควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรก้มยกในท่าที่ถูกต้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
โปรแกรมแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่นครราชสีมา
การแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 22-29 กันยายน 2567 ณ อาคารชาติชาย ฮอลล์ จังหวัดนครราชสีมา
โดยศึกวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2024 ตัวแทนจากไทย นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี แชมป์วอลเลย์บอลหญิง ไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2023/24 จะลงทำการแข่งขันร่วมกับ 7 ทีมจากทั่วเอเชีย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งแบบพบกันหมดเพื่อจัดอันดับและประกบคู่ในรอบต่อไป โดยแชมป์และรองแชมป์ จะคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนทวีปเอเชียไปแข่งขันชิงแชมป์โลก 2024 ที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 17-22 ธันวาคมนี้
โปรแกรมการแข่งขัน ถ่ายทอดสดทาง ช่อง one31 และ ช่อง GMM25
วันที่ 22 กันยายน 2567
กลุ่ม เอ
เวลา 10:00 น. กัวนิช วีซี (แชมป์ลีกคาซัคสถาน) พบ ฮัว ชั้ต ดึ๊ก ซาง (รองแชมป์ลีกเวียดนาม)
เวลา 19.00 น. นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี (แชมป์ลีกไทย) พบ ไควซิง (ตัวแทนจากฮ่องกง)
กลุ่ม บี
เวลา 13:00 น. ไซปา คลับ (แชมป์ลีกอิหร่าน) พบ โมโนลิธ สกาย ไรเซอร์ส (ตัวแทนจากฟิลิปปินส์)
เวลา 16:00 น. แอลพีแบงก์ นิญ บิญ (แชมป์ลีกเวียดนาม) พบ เอ็นอีซี เรด ร็อกเก็ตส์ คาวาซากิ (แชมป์ลีกญี่ปุ่น)
วันที่ 23 กันยายน 2567
กลุ่ม บี
เวลา 10:00 น. เอ็นอีซี เรด ร็อกเก็ตส์ (แชมป์ลีกญี่ปุ่น) คาวาซากิ พบ ไซปา คลับ (แชมป์ลีกอิหร่าน)
เวลา 13:00 น. แอลพีแบงก์ นิญ บิญ (แชมป์ลีกเวียดนาม) พบ โมโนลิธ สกาย ไรเซอร์ส (ตัวแทนจากฟิลิปปินส์)
กลุ่ม เอ
เวลา 16:00 น. นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี (แชมป์ลีกไทย) พบ กัวนิช วีซี (แชมป์ลีกคาซัคสถาน)
เวลา 19:00 น. ไควซิง (ตัวแทนจากฮ่องกง) พบ ฮัว ชั้ต ดึ๊ก ซาง (รองแชมป์ลีกเวียดนาม)
วันที่ 24 กันยายน 2567
กลุ่ม บี
เวลา 10:00 น. ไซปา คลับ (แชมป์ลีกอิหร่าน) พบ แอลพีแบงก์ นิญ บิญ (แชมป์ลีกเวียดนาม)
เวลา 13:00 น. โมโนลิธ สกาย ไรเซอร์ส (ตัวแทนจากฟิลิปปินส์) พบ เอ็นอีซี เรด ร็อกเก็ตส์ คาวาซากิ (แชมป์ลีกญี่ปุ่น)
กลุ่ม เอ
เวลา 16:00 น. ฮัว ชั้ต ดึ๊ก ซาง (รองแชมป์ลีกเวียดนาม) พบ นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี (แชมป์ลีกไทย)
เวลา 19:00 น. กัวนิช วีซี (แชมป์ลีกคาซัคสถาน) พบ ไควซิง (ตัวแทนจากฮ่องกง)
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
คำศัพท์เมื่อต้องไปออกกำลังกาย
เพราะการที่เราจะเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษได้นั่น เกิดจากการที่ใช้งานเป็นประจำ และแน่นอนว่าในการออกกำลังกาย บางครั้งเราก็หนีไม่พ้นภาษาอังกฤษเช่นกัน วันนี้ วอลล์สตรีทอิงลิช จะเอาคำศัพท์ และประโยค ที่ต้องใช้เมื่อเราต้องออกกำลังกายมาผากกัน ว่าแต่มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
Fitness
ก่อจะเริ่มต้นไปไหน เรามาแก้ความเข้าใจผิด และทำความเข้าใจดีกว่า
คนไทยมักเข้าใจผิดว่า “ฟิตเนส” คือสถานที่ออกกำลังกาย ฝรั่งอาจจะงงกันได้ง่ายๆ เพราะในความเป็นจริงของภาษษอังกฤษ คำนี้แปลว่า “สมรรถภาพของร่างกาย” ไม่ใช่สถานที่ออกกำลังกายอย่างที่เราเข้าใจ และถ้าจะสื่อความหมายของสถานที่ต้องใช้คำว่า “Fitness center” หรือใช้คำว่า “gym” แทนนะ น่าจะดีกว่า
เช่น I’m gonna go to the fitness center. (ฉันอยากจะไปยิมเซ็นเตอร์)
Abs
สำหรับคำศัพท์ Abs หลายคนอาจจะไม่คุ้นตา แต่คำนี้ย่อมาจาก Abdominal muscles หมายถึง กล้ามเนื้อหน้าท้อง และเราเรียกกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ฟิตเฟิร์มว่า six-pack abs นั่นเอง
เช่น I’d like to train my abs. (ฉันอยากฝึกกล้ามหน้าท้อง)
Exercises กับ Work out
จริงอยู่ที่คำว่า exercise แปลว่าออกกำลังกาย แต่ถ้าให้ใช้ในการการตอบคำถาม หรือใช้ในการสนทนาแล้ว เราจะไม่ใช้คำว่า exercise แต่จะใช้คำว่า work out แทน
ถึงแม้ว่า ทั้ง exercise และ work out ทั้งสองตัวเป็นกริยาเหมือนกัน แต่ work out เป็น phrasal verb หรือกลุ่มคำกริยาที่ชาวต่างชาติจะใช้ในความหมายของการออกกำลังกายมากที่สุดนั่นเอง
ดังนั้นถ้าอยากจะตอบว่าชอบออกกำลังกาย ให้ตอบว่า I like to work out. (ฉันชอบออกกำลังกาย) จะดีกว่า
Cardio
คำนี้เป็นศัพท์เฉพาะเมื่อพูดถึงเรื่องของหัวใจ แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบการออกกำลังกายแล้ว คำว่า cardio นี้ เป็นการเรียกรูปแบบการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต แบบย่อๆ นั่นเอง
โดยเป็นการออกกำลังกายประเภท cardiovascular exercise ครับ โดยจะเป็นรูปแบบการเน้นการออกกำลังกายที่จะทำการเผลผลาญแคลอรี่ในร่างกาย ช่วยเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนดี สามารถช่วยลดความตึงเครียดได้ อีกทั้งยังช่วยให้ปอดและหัวใจแข็งแรงอีกด้วย
Warm up
คือการอบอุ่นร่างกาย เป็นการทำให้ร่างกายอบอุ่นโดยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนโลหิต ทำให้ข้อต่อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อยืดหยุ่น ลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บขณะออกกำลังกาย แน่นอนว่านอกจากใช้ในการออกกำลังกาย คำนี้ยังใช้ในเชิงการเตรียมตัว เตรียมพร้อม เพราะรออะไรสักอย่างอีกด้วย
Cool down
cool down คำนี้หลายคนน่าจะคุ้นชินกันดี และถ้าใครที่ชบออกกำลังกายน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากว่า นี่คือการออกกำลังกายให้ช้าลง จนหยุดออก ทำเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนจะเลิกออกกำลังกายนั่นเอง
Body weights
คำนี้จะหมายถึง การออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักของตัวเอง โดยเราสามารถแยกย่อยลงไปได้อีก ตามประเภทของการใช้งาน เช่น
- squat การฝึกท่าสควอท เป็นการนั่งยองๆ เหมือนนั่งเก้าอี้อากาศ
- lunge เป็นการฝึกต้นขา
- crunch ฝึกความแข็งแรงของหน้าท้อง
- push-up การฝึกท่าดันพื้น หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ วัดพื้น, วิดพื้น นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
ส่องความสามารถใหม่ ‘ไมโครซอฟท์ Copilot’ AI at Work
“ไมโครซอฟท์” เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่ มาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำบน Pages, Python ใน Excel และ Agents ที่มี AI เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะซึ่งเข้ามาสร้างมิติใหม่ให้กับโลกของการทำงาน
ไมโครซอฟท์ อัปเดทความสามารถระลอกใหม่ของ Microsoft 365 Copilot รวมเอาเว็บไซต์ งาน และเพจต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันเป็นระบบการออกแบบใหม่สำหรับการทำงาน AI at Work
ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยี GPT4o และระบบการประสานงานที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพของ Copilot เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้นกว่าเดิมโดยเฉลี่ย 2 เท่า และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้มากขึ้นเกือบ 3 เท่า
จุดเด่นสำคัญ 3 ประการ
Business Chat ปฏิวัติวิธีการทำงานกับข้อมูลขององค์กร เปลี่ยนเอกสารและข้อมูลทั้งหมดในองค์กรให้เป็นคลังความรู้อัจฉริยะ ผสานข้อมูลจากเว็บไซต์และข้อมูลภายในองค์กรเข้าด้วยกัน ช่วยให้ทำงานร่วมกับ Copilot ได้เสมือนเป็นเพื่อนร่วมงานที่รู้ใจ สามารถใช้งานผ่าน Copilot Pages ซึ่งเป็นพื้นที่ทำงานดิจิทัลรูปแบบใหม่สำหรับยุค AI
ยกระดับการทำงานด้วย Copilot ในแอป Microsoft 365 จากเสียงตอบรับของลูกค้าที่ลงความเห็นว่า Copilot ใน Teams ได้เปลี่ยนรูปแบบการประชุมไปโดยสิ้นเชิง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประชุม และมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ไมโครซอฟท์จึงได้ต่อยอดและพัฒนา Copilot ให้ช่วยงานสำคัญในแอปอื่น ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อนใน Excel การสร้างงานนำเสนอที่น่าสนใจใน PowerPoint และการจัดการอีเมลใน Outlook ได้อย่างชาญฉลาด
Copilot Agents ผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะปฏิวัติการทำงานในองค์กร ด้วยความสามารถในการทำงาน ได้อย่างอัตโนมัติและจัดการกระบวนการทางธุรกิจแทนผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น ช่วยให้องค์กรสามารถปรับขยายทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Copilot Pages สิ่งประดิษฐ์ดิจิทัลใหม่ในยุค AI
Copilot ถือเป็นส่วนต่อประสานผู้ใช้ (UI) ใหม่สำหรับเทคโนโลยี AI โดยมี BizChat เป็นศูนย์กลางที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ในที่เดียว ทั้งข้อมูลจากเว็บไซต์ ข้อมูลงาน และข้อมูลธุรกิจ ทำให้เข้าถึงได้สะดวกขณะทำงาน
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถให้ BizChat ทำงานร่วมกับ Copilot เพื่อนำข้อมูลทุกอย่างภายในองค์กรมาใช้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ เปลี่ยนทุกข้อมูลให้เป็นทรัพยากรที่มีค่าและสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกเรื่อยๆ
จุดเด่นของ Copilot Pages
- เก็บข้อมูลแบบถาวร: ทุกอย่างที่สร้างในองค์กร ไม่ว่าจะโดยคนหรือ AI จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยและพร้อมใช้งาน
- แก้ไขและแชร์ได้ง่าย: เนื้อหาที่ AI สร้างสามารถแก้ไข เพิ่มเติม และแชร์กับทีมได้
- ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์: ทุกคนในทีมเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที
- ทำงานร่วมกับ AI: ใช้ Copilot เหมือนเพื่อนร่วมงาน ช่วยกันค้นหาและเพิ่มข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ
Copilot ใน Excel
Excel ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการข้อมูลธุรกิจ และตอนนี้ Copilot ใน Excel สามารถทำงานกับข้อมูลที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบตารางได้ ไมโครซอฟท์ ได้เพิ่มความสามารถใหม่ๆ เพื่อใช้ประโยชน์จาก Excel ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการรองรับสูตรเพิ่มเติม ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับ Copilot เพื่อสร้างภาพข้อมูล
ด้วยความสามารถใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานกับข้อมูลนอกรูปแบบตาราง ใช้สูตรขั้นสูง จัดรูปแบบตามเงื่อนไข สร้างและปรับแต่งแผนภูมิและ PivotTable ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังทำงานกับข้อมูลในรูปแบบข้อความได้ ไม่ได้จำกัดแค่เพียงข้อมูลตัวเลขเท่านั้น
นอกจากนี้ Copilot ใน Excel ผสานพลังของ Python หนึ่งในภาษาโปรแกรมมิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ช่วยให้ผู้ใช้งานทำการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น การคาดการณ์ วิเคราะห์ความเสี่ยง และการเรียนรู้ของเครื่องได้ง่ายๆ ด้วยคำสั่งภาษาธรรมชาติ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด เสมือนมีนักวิเคราะห์ข้อมูลมืออาชีพอยู่ในทีม
Copilot ใน PowerPoint
การสร้างงานนำเสนอที่สมบูรณ์แบบมักต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ Copilot ใน PowerPoint กำลังเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ ด้วยฟีเจอร์ Narrative Builder ที่พร้อมให้บริการ
โดยผู้ใช้งานสามารถทำงานร่วมกับ Copilot เสมือนเป็นเพื่อนร่วมงาน สร้างไฟล์ร่างฉบับแรกที่ยอดเยี่ยมได้ในเวลาไม่กี่นาที โดยที่ผู้ใช้งานยังคงควบคุมกระบวนการสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่
Copilot จะใช้คำสั่งของผู้ใช้งานเพื่อสร้างโครงร่างพร้อมหัวข้อที่สามารถแก้ไขและปรับแต่งได้ตามต้องการ ทำให้การสร้างฉบับร่างแรกของงานนำเสนอเป็นเรื่องง่าย และเร็วๆ นี้ ผู้ใช้งานจะสามารถเพิ่มไฟล์ลงในโครงร่างเพื่อใช้เป็นพื้นฐานให้กับหัวข้อต่างๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ด้วย Brand Manager Copilot ยังสามารถใช้ประโยชน์จากเทมเพลตของบริษัท ทำให้พรีเซนเทชั่นของผู้ใช้งานพร้อมใช้งานในระดับองค์กรและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ทันที และในเร็วๆ นี้ Copilot ยังจะสามารถดึงรูปภาพที่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทด้านคลังสินทรัพย์ขององค์กรใน SharePoint ของผู้ใช้งาน เพื่อช่วยในการสร้างงานนำเสนอที่มีคุณภาพสูงและตรงกับแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นได้
Copilot ใน Teams
ปัจจุบัน การสนทนาที่สำคัญในการประชุมมีทั้งหมดสองส่วน คือ ส่วนที่พูดในการประชุม และส่วนที่พิมพ์ในโปรแกรมแชทระหว่างการประชุม โดย Copilot ใน Teams สามารถช่วยถอดความในบทสนทนาและแชทในที่ประชุมและเรียบเรียงรวมกันไว้ในที่เดียว เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลทั้งหมดอย่างไม่ตกหล่น สามารถถาม Copilot ได้ว่ามีคำถามใดที่พลาดไปในที่ประชุม และ Copilot จะทำการสแกนหาสิ่งที่ได้รับการพูดถึงและข้อความในแชทได้อย่างรวดเร็ว เพื่อหาว่าคำถามใดยังไม่ได้รับคำตอบ Copilot จะทำให้ไม่มีคำถาม ไอเดีย หรือความพยายามใดที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะเปิดให้ใช้งานได้ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป
Copilot ใน Outlook
เราทุกคนต่างต้องเจอกับจำนวนอีเมลที่เข้ามามากมาย แต่ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยจัดลำดับความสำคัญกล่องจดหมายจาก Copilot ใน Outlook จะช่วยให้เข้าถึงข้อความที่มีความสำคัญได้อย่างรวดเร็ว จากการวิเคราะห์กล่องจดหมายของคุณตามเนื้อหาของอีเมลและบริบทของคุณที่เกี่ยวข้องกับงานดังกล่าว
อีกไม่นาน จะสามารถสอน Copilot เกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ คำสำคัญ หรือบุคคลที่มีความสำคัญสำหรับคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าอีเมลเหล่านั้นจะได้รับการทำเครื่องหมายว่าเป็นอีเมลที่มีความสำคัญสูง ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะอยู่เปิดให้ทดลองใช้งานแบบสาธารณะ ในช่วงปลายปี 2567 นี้
Copilot ใน Word
เมื่อใช้งาน Word มักจะต้องนำเนื้อหาจากเอกสารและแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้ แต่การค้นหาและรวมข้อมูลที่คุณต้องการอาจใช้เวลานานและขัดจังหวะการเขียน ในเดือนนี้ Copilot ใน Word จะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถอ้างอิงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงแต่ข้อมูลจากเว็บไซต์และข้อมูลการทำงานจาก Word, PowerPoint, PDF และเอกสารที่เข้ารหัสเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอีเมลและการประชุมอีกด้วย โดย Copilot ใน Word จะรวมข้อมูลเหล่านั้นเข้ากับงานของคุณโดยตรง เพื่อให้ร่างงานเขียนฉบับแรกได้ดีและรวดเร็ว
Copilot ใน Word ยังเป็นเครื่องมือช่วยเขียนที่ดี โดยในเวอร์ชันอัปเดตล่าสุด ได้รวมฟีเจอร์ประสบการณ์การขึ้นหน้าเอกสารใหม่ ที่มาพร้อมกับ prompt ที่จะช่วยให้เริ่มต้นกระบวนการสร้างสรรค์งานและความสามารถในการทำงานร่วมกับ Copilot ในขณะที่คุณค่อยๆ ทำงานไปในแต่ละส่วนของเอกสาร
Copilot ใน OneDrive
OneDrive เป็นแหล่งเก็บข้อมูลสำหรับคนทำงานใช้จัดเก็บเนื้อหางานส่วนตัวต่างๆ เอาไว้ แต่เราทุกคนมักเจอกับปัญหาในการค้นหาเอกสารที่ถูกต้องหรือพยายามจำว่าเอกสารใดมีเนื้อหาที่เราต้องการ
โดย Copilot ใน OneDrive สามารถวิเคราะห์ไฟล์ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วเพื่อค้นหาข้อมูลที่คุณต้องการ ทำให้ง่ายต่อการได้รับข้อมูลเชิงลึก สรุป และเปรียบเทียบไฟล์ได้สูงสุดถึง 5 ไฟล์ พร้อมสรุปรายละเอียดและความแตกต่างภายในแต่ละไฟล์ได้อย่างชัดเจนและอ่านง่าย โดยไม่ต้องเปิดไฟล์นั้นๆ ขึ้นมา
ทั้งนี้ ฟีเจอร์ใหม่ของ Copilot ใน OneDrive กำลังทยอยเปิดตัวและจะพร้อมให้บริการภายในเดือนนี้
ขยายทีมอย่างไร้ขีดจำกัดด้วย Copilot agents
การเพิ่มรายได้และลดต้นทุน ด้วยการใช้ Copilot เพื่อเร่งกระบวนการทางธุรกิจทุกขั้นตอน คือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในยุค AI ไมโครซอฟท์
Copilot agents คือผู้ช่วย AI ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานและดำเนินกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างอัตโนมัติ โดยทำงานร่วมกับมนุษย์ ซึ่งความสามารถของ Agents มีตั้งแต่การตอบสนองต่อคำสั่งอย่างง่าย ไปจนถึงช่วยทีมงานในการทำงานซ้ำๆ และขั้นสูงสุดคือ Agents ที่ทำงานได้อย่างอิสระโดยสมบูรณ์ ด้วย Copilot agents
สามารถนำพลังของ Agents มาสู่กระบวนการทำงานโดยตรง โดย Copilot agents จะทำงานให้คุณ โดยมี Copilot ช่วยทำงานอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้จัดการและควบคุมทั้งหมด ผู้ใช้สามารถจัดการได้ง่ายและปลอดภัย โดย Copilot agents ทั้งหมดอยู่ภายใต้หลักการการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ข้อมูลของคุณจะไม่ออกนอกขอบเขตความไว้วางใจของ Microsoft 365 และทุกอย่างจะเกิดขึ้นภายในระบบของคุณเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ประโยชน์จาก Agents ที่สร้างไว้ล่วงหน้า เช่น Visual creator agent ตัวใหม่ ที่ช่วยคุณสร้างภาพ การออกแบบ และในเร็ว ๆ นี้จะรวมถึงวิดีโอที่สร้างโดย AI อีกด้วย
ก้าวต่อไปในอนาคต
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของคลื่นลูกที่ 2 แห่งนวัตกรรม Copilot เท่านั้น อีกสองเดือนข้างหน้า จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่สามารถใช้ Copilot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเร่งสร้างคุณค่าทางธุรกิจให้กับลูกค้าทุกราย
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
5 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ตัวยานอนหลับจากธรรมชาติ ช่วยให้หลับสนิทตลอดคืน
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพกายและใจ คุณภาพการนอนหลับของผู้หญิงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน รวมถึงอาหารที่รับประทาน และเครื่องดื่มที่เหมาะสมก่อนนอน จะช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น เราจึงขอแนะนำ 5 เครื่องดื่มที่มีคุณค่าต่อร่างกายของสาว ๆ ช่วยให้หลับสนิท สุขภาพดีทั้งกายและใจอย่างแน่นอน
5 เครื่องดื่มมีคุณค่าต่อร่างกายสาว ๆ ช่วยให้หลับสนิท
1.น้ำเชอร์รี่
ผลการศึกษาวิจัยล่าสุดพบว่าสารต้านการอักเสบในน้ำเชอร์รี่ เมื่อผสมกับฮอร์โมนเมลาโทนิน จะช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้ นอกจากนี้ น้ำเชอร์รี่สดอาจมีผลคล้ายกับยานอนหลับสำหรับผู้ใหญ่ เช่นเดียวกับผักและผลไม้ชนิดอื่น ๆ เชอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและฟลาโวนอยด์ เป็นสารประกอบที่พืชสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารประกอบเหล่านี้ สามารถส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของสาว ๆ ได้มากเลยทีเดียวค่ะ
2.นมอัลมอนด์
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในนมอัลมอนด์ สามารถช่วยเพิ่มการผลิตเซโรโทนินในสมอง ซึ่งสารเซโรโทนินเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ การดื่มในปริมาณพอดีก่อนนอน จะช่วยให้ผ่อนคลายและช่วยให้นอนหลับลึกได้มากขึ้น
3.น้ำชาสมุนไพร
ชาสมุนไพรอย่างชาคาโมมายล์ ชามิ้นต์ และชาลาเวนเดอร์ ขึ้นชื่อในคุณสมบัติที่ช่วยให้นอนหลับง่าย สามารถช่วยลดความวิตกกังวล ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และให้คุณภาพการนอนหลับที่มากขึ้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงชาและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากอาจรบกวนการนอนหลับของสาว ๆ มากเกินไป
4.นมพร่องมันเนยอุ่นๆ
การดื่มนมอุ่นๆ ถือเป็นวิธีที่ดีในการลดปัญหานอนไม่หลับ เนื่องจากนมมีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ความอุ่นของนมยังช่วยให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการทำให้จิตใจสงบก่อนเข้านอน โดยนมอุ่น ๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการทำให้จิตใจสงบและอิ่มท้องก่อนเข้านอน
5.กล้วยปั่นใส่นม
คลายเครียดด้วยกล้วย! ที่มีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายจะแปลงเป็นเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้ผ่อนคลาย มีความสุข และอารมณ์ดี กล้วยยังช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น หงุดหงิด ปวดหัว และปวดท้องในผู้หญิงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือนได้อีกด้วยค่ะ แถมยังมีสารอาหารที่สามารถกระตุ้นสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ การกินกล้วยเป็นอาหารเช้า สามารถทำให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดใส ในขณะที่การกินกล้วยอีกลูกในช่วงบ่าย จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีพลัง นอกจากนี้ กล้วยยังมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและช่วยป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยังสามารถบรรเทาอาการท้องอืดและท้องผูกได้อีกด้วย
แม้ว่าอาหารและเครื่องดื่มที่สาว ๆ รับประทานก่อนนอน อาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงปริมาณอาหารแต่ละมื้อ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมากเกินไป เน้นความสมดุลที่สามารถช่วยให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนได้จริง เท่านี้ก็จะทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกสดชื่นในตอนเช้าแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 23/09/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 40,800.00 | 40,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,643.00 | 40,067.88 | 41,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,378.70 | 36,061.09 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,114.40 | 32,054.30 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,189.00 | 18,025.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 925.00 | 14,023.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,739.00 | 41,523.24 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 23/09/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.75 | 35.75 | 36.05 | 35.75 | 35.75 | 35.75 | 35.75 | 35.75 | 35.75 | 35.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.38 | 35.38 | 35.68 | 35.38 | 35.38 | 35.38 | 35.38 | 35.38 | 35.38 | 35.38 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.64 | 33.64 | 33.94 | 33.64 | 33.64 | – | 33.64 | 33.64 | 33.64 | 33.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.39 | 33.39 | – | – | – | – | – | – | – | 33.39 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.34 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 44.34 |
เบนซิน 95 | 43.84 | – | – | – | 49.81 | – | 44.34 | 43.99 | – | 43.84 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.24 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 18.59 | 18.59 | – | – | – | – | – | – | – | 18.59 |