สาระน่ารู้ประจำวันที่ 30 กันยายน 2567

Generation Rentไร้เงินเก็บชะลอซื้อ-เช่าบ้านหันมาอยู่กับพ่อแม่

เศรษฐกิจโตช้า-ดอกเบี้ยแพง-ราคาบ้านแพงสวนทางกับรายได้ Generation Rentไร้เงินเก็บไม่พร้อมซื้อ-เช่าบ้าน เปลี่ยนมาอยู่กับพ่อแม่ตอบโจทย์ทางการเงินและลดภาระค่าใช้จ่าย

DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด พบว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลให้เจเนอเรชัน Y – Z ตัดสินใจชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปก่อนเนื่องจากมีเงินเก็บไม่พอที่จะซื้อที่อยู่อาศัย

 
•    “เงินเก็บสวนทางราคาบ้าน” ทำคนเลือกเช่า ในขณะเดียวกันเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกเช่าที่อยู่อาศัยแทนการซื้อ ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยการเงินเป็นหลัก โดยมากกว่าครึ่ง (56%) เผยว่ามีเงินเก็บไม่พอที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ขณะที่ราคาบ้านที่สูงเกินไปทำให้เกือบ 2 ใน 5 (37%) ขอเลือกออมเงินแทน และ 36% มองไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องซื้อที่อยู่อาศัยในเวลานี้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้เช่าส่วนใหญ่ยังคงกังวลเกี่ยวกับการบริหารสภาพคล่องทางการเงินในยุคที่แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง จึงลดความเสี่ยงโดยหลีกเลี่ยงการซื้อที่อยู่อาศัย และหันมาเลือกเช่าซึ่งตอบโจทย์ทางการเงินและลดภาระค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า
 

ปัจจุบันมุมมองการเป็นเจ้าของที่อาศัยของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปตามเทรนด์ Generation Rent ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไม่สร้างภาระทางการเงินในระยะยาวจากการซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งมีความคล่องตัวมากกว่าหากต้องการโยกย้ายในอนาคต โดยผู้เช่าเกือบ 2 ใน 5 (39%) เผยว่าได้วางแผนเช่า 2 ปีก่อนจะซื้อที่อยู่อาศัยในภายหลัง ส่วน 29% มีความไม่แน่ใจว่าจะเช่าอีกนานแค่ไหน เนื่องจากยังต้องพิจารณาปัจจัยความพร้อมด้านอื่น ๆ อีกครั้ง ขณะที่ 5% เผยว่าตั้งใจจะเช่าอยู่ตลอดชีวิต


สำหรับอัตราค่าเช่าที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในหมู่ผู้เช่าอยู่ในช่วงไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน สัดส่วน 46% สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์การมองหาที่อยู่อาศัยให้เช่าที่มีราคาย่อมเยา ตอบโจทย์สถานะทางการเงินในยุคปัจจุบันเป็นหลัก รองลงมาคือ 5,001-10,000 บาท/เดือน และ 10,001-15,000 บาท/เดือน (สัดส่วน 32% และ 9% ตามลำดับ)

ขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) หรือ Gen Y และ Gen Z ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มต้นสร้างครอบครัวและเริ่มวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยจึงมีความสำคัญต่อภาคอสังหาฯ อย่างไรก็ดีมีผู้บริโภคเพียง 37% เท่านั้นที่มีแผนย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ภายใน 1 ปีข้างหน้า ขณะที่กว่า 3 ใน 5 (63%) เผยว่ายัง”ไม่มี”แผนย้ายออกเร็ว ๆ นี้ โดยให้เหตุผลว่าต้องการดูแลพ่อแม่อย่างใกล้ชิด 43% รองลงมาคือตั้งใจรับช่วงต่อบ้านของพ่อแม่ 28% และไม่มีเงินเก็บเพียงพอในการซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยของตัวเองในเวลานี้ 27% สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายทางการเงินที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่มีกำลังซื้อเพียงพอที่จะเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัย 4 ที่สำคัญของมนุษย์

แม้ความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อแผนการซื้อบ้าน/คอนโดฯ ของคนรุ่นใหม่ แต่ความต้องการซื้อนั้นยังคงมีอยู่ โดยกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และ Gen Z เผยว่าหากต้องเลือกระหว่างการซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่ต้องการซื้อมากถึง 82% มีเพียง 18% เท่านั้นที่สนใจเช่า

ทั้งนี้ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และ Gen Z วางแผนการเงินไปกับการใช้จ่ายภายในครอบครัวมากถึง 56% รองลงมาคือเก็บเงินไว้เป็นกองทุนเงินสำรองฉุกเฉิน 54% เพื่อรับมือสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต และเก็บเงินไว้เพื่อเคลียร์หนี้ต่าง ๆ ให้หมด 27% โดยมีเพียง 21% เท่านั้นที่วางแผนออมเงินไว้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย

สอดคล้องกับข้อมูลจากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่ง ปี 2567 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยว่า สถานการณ์สังคมสูงวัยที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับวัยแรงงานที่ลดลงในไทย ส่งผลให้ “แซนด์วิช เจเนอเรชัน (Sandwich Generation)” หรือคนที่อยู่ตรงกลางที่ต้องดูแลทั้งพ่อแม่สูงอายุและลูกของตนเอง มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเผชิญปัญหาทางการเงิน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางกลายเป็นความท้าทายให้คนรุ่นใหม่สร้างเนื้อสร้างตัวได้ยากกว่าสมัยก่อน การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยจึงอาจไม่ใช่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ อีกต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


อินไซต์เรื่องที่คนซื้อ-เช่ากังวล&ฟังก์ชันบ้านในฝัน

เปิด อินไซต์เรื่องที่คนซื้อ-เช่ากังวล อันดับหนึ่ง “บ้านไม่ตรงปก” รองลงมา “อัตราดอกเบี้ย” ที่มีผลต่อแผนการผ่อน และปัญหาโครงการเกิดข้อพิพาทส่งผลให้ไม่สามารถขาย โอน หรือปล่อยเช่าได้ ส่วนฟังก์ชันบ้านในฝัน ทำเลที่มีศักยภาพ ตอบโจทย์การเลี้ยงสัตว์

จากการสำรวจDDproperty Thailand Consumer Sentiment Study  พบว่า “ได้บ้านไม่ตรงปก” ความกังวลอันดับ 1 ของคนซื้อบ้าน การซื้อที่อยู่อาศัยถือเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่และมาพร้อมความท้าทาย เนื่องจากหากซื้อแล้วเกิดปัญหา ผู้ซื้อไม่สามารถเปลี่ยนได้ง่ายดายเหมือนการซื้อสินค้าทั่วไป

เห็นได้ชัดจากความกังวลของผู้บริโภคที่ซื้อ ขาย หรือเช่าที่อยู่อาศัยนั้น พบว่ากว่า 3 ใน 5 (61%) มีความกังวลว่าคุณภาพของที่อยู่อาศัยที่ได้จะไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้มากที่สุด โดยมีสัดส่วนที่สูงขึ้นในกลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางและสูง รองลงมาคือ กังวลว่าแผนการผ่อนชำระอาจได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนหรือเพิ่มขึ้นในอนาคต 51% ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินตามมาได้ ขณะที่อีก 42% กังวลว่าโครงการที่ซื้อไปแล้วจะมีข้อพิพาทกับหน่วยงานต่าง ๆ ส่งผลให้ไม่สามารถขาย โอนกรรมสิทธิ์ หรือปล่อยเช่าได้ 

“ขนาด-ทำเล” หัวใจสำคัญเมื่อเลือกซื้อบ้าน ปัจจัยภายในที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค กว่า 2 ใน 5 (43%) ให้ความสำคัญกับขนาดที่อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก โดยบ้าน/คอนโดฯ ในฝันต้องมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอที่จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว รองลงมาคือพิจารณาราคาเฉลี่ยต่อพื้นที่ใช้สอยในสัดส่วนไล่เลี่ยกันที่ 42% สะท้อนให้เห็นว่าความคุ้มค่ายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ตามมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่พัก 37%

สำหรับปัจจัยภายนอกโครงการที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย พบว่าผู้บริโภคเกือบครึ่ง (48%) พิจารณาจากทำเลที่ตั้งของโครงการมาเป็นอันดับแรก โดยให้ความสำคัญกับการเลือกโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตหรืออยู่ในทำเลที่ภาครัฐมีแผนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและเมกะโปรเจกต์ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าของที่อยู่อาศัยตามไปด้วย รองลงมาคือโครงการที่เดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และพิจารณาจากความปลอดภัยของโครงการ ในสัดส่วนเท่ากันที่ 44% ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาวทั้งสิ้น

 “คุณภาพงานตกแต่งภายใน” ดึงดูดใจให้เลือกดีเวลลอปเปอร์ ปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคพิจารณาเมื่อเลือกผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น มากกว่าครึ่ง (53%) ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการตกแต่งภายในของโครงการมากที่สุด เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สะท้อนคุณภาพของสินค้าโดยตรง และผู้บริโภคยังสามารถประเมินความคุ้มค่าจากคุณภาพงานเทียบกับราคาขายในเบื้องต้นได้ รองลงมาคือพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาของผู้พัฒนาอสังหาฯ และข้อเสนอทางการเงินต่าง ๆ ส่วนลด หรือเงินคืน ในสัดส่วนเท่ากันที่ 50% ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อบ้านใหม่ได้ไม่น้อย โดยที่ผู้บริโภคยังสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้เป็นงบตกแต่งบ้านได้

 เทรนด์ Pet Parent มาแรง 78% สนใจโครงการเลี้ยงสัตว์ได้ ผลสำรวจของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เผยว่าคนไทยต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นลูก (Pet Parent) มากถึง 49% สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงและโอกาสในการเจาะกลุ่มเป้าหมายนี้ในหลากหลายธุรกิจรวมทั้งตลาดที่อยู่อาศัยเช่นกัน สอดคล้องกับข้อมูลจากแบบสอบถามฯ DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study ที่พบว่า ผู้บริโภคกว่า 3 ใน 4 (78%) เผยว่าสนใจโครงการที่เลี้ยงสัตว์ได้ หรือ Pet-Friendly โดยกว่า 2 ใน 3 (67%) ของกลุ่มผู้ที่สนใจนั้นคาดหวังว่าในโครงการเหล่านี้จะมีการแยกโซนระหว่างผู้ที่เลี้ยงสัตว์และไม่ได้เลี้ยงภายในอาคารอย่างชัดเจน รองลงมาคือมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น สวน สระว่ายน้ำ ระบบระบายอากาศ ฯลฯ ในสัดส่วนไล่เลี่ยกันที่ 66% และมีการออกแบบเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง เช่น มาพร้อมระบบระบายอากาศภายในห้อง ระเบียงเสริมความปลอดภัยป้องกันการปีนป่าย 60%
 
•    ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่จาง คนไทยมองหาบ้านที่ช่วยจบปัญหา ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ยังคงเป็นความกังวลของคนหาบ้าน เนื่องจากความเสี่ยงนี้กระทบต่อสุขภาพอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยผู้บริโภคถึง 61% เลือกพิจารณาเฉพาะโครงการที่มีเครื่องปรับอากาศและระบายอากาศได้ดีเท่านั้น เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 รองลงมา 53% เผยว่าจะทบทวนแผนการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงอีกครั้ง ขณะที่ 37% จะพิจารณาการเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ ที่มีฟังก์ชั่นหรือคุณสมบัติที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 30ก.ย. “แข็งค่าเล็กน้อย”ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอยู่ในโซน Overvalued มากขึ้นในเชิง valuation ในส่วนเงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นบ้าง ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมา แนะปิดความเสี่ยงผ่าน Options หรือ Local Currency ควบคู่ทำสัญญา Forward

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้30ก.ย.2567 ที่ระดับ  32.37 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  32.40 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า  นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทโดยรวมเคลื่อนไหวในกรอบ sideways แต่ก็มีจังหวะแข็งค่าขึ้น จนทะลุโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.27-32.42 บาทต่อดอลลาร์)

ตามจังหวะการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมการปรับตัวขึ้นบ้างของราคาทองคำ หลังอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความหวังต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด

 อย่างไรก็ดี เงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นตามบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวลงราว -20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ตามแรงขายทำกำไรและจังหวะการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงร้อนแรงอยู่ อีกทั้ง ผู้เล่นในตลาดต่างคงคาดหวังว่าเฟดจะสามารถเร่งลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นทะลุแนวรับที่เราประเมิน ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำและความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนซึ่งหนุนให้เงินหยวนจีน (CNY) และบรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชียแข็งค่าขึ้น

สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ นอกจากนี้ ควรรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

▪ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยจะเริ่มจาก รายงานยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTs Job Openings) ยอดการจ้างงานภาคเอกชน โดย ADP จนถึง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) และ

อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (ISM Manufacturing and Services PMIs) เดือนกันยายน

พร้อมกับรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า เฟดมีโอกาส “เร่งลดดอกเบี้ย” ได้ในสองการประชุมที่เหลือของปีนี้

และมีโอกาสเร่งลดดอกเบี้ยต่อในการประชุมช่วงต้นปีหน้า ซึ่งเราคงมุมมองเดิมว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ไม่ได้ชะลอตัวลงหนักหรือออกมาแย่กว่าคาด

เฟดก็มีแนวโน้มทยอยลดดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot ล่าสุด ทำให้สุดท้ายผู้เล่นในตลาดต้องทยอยปรับลดความคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดบ้าง เปิดโอกาสให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวขึ้นได้บ้างในกรณีดังกล่าว

▪ ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน เดือนกันยายน รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาสที่ 2 และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของ BOE เช่นกัน

ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของจีนในเดือนกันยายน (ซึ่งจะมีการรายงานในวันเดียวกันทั้งในส่วนของ Official PMI ที่เน้นบริษัทขนาดใหญ่เป็นหลัก

และ Caixin PMI ที่เน้นบริษัทขนาดเล็ก-กลาง) เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจ รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม รวมถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ Tankan Survey)

▪ฝั่งไทย – ควรรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเดือนกันยายน พร้อมจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังดัชนี SET ยังคงมีความเสี่ยงอาจย่อตัวลงได้บ้างในระยะสั้น อนึ่ง เงินบาทได้แข็งค่าหลุดทุกโซนแนวรับที่เราได้ประเมินไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้ เมื่อประเมินจากสถิติการเคลื่อนไหวของเงินบาทหลังรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ

โดยเฉพาะรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ก็มีโอกาสที่เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นทะลุโซน 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ ทว่า เราคงมุมมองเดิมว่า ในเชิง Valuation การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าโซน 32.50 บาทต่อดอลลาร์นั้น ถือว่า เป็นระดับที่ Overvalued มากขึ้น (Z-Score ของดัชนีค่าเงินบาท REER เกินระดับ +1.0 หากเงินบาทแข็งค่าหลุด 32.00 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งหากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เงินบาทก็ไม่ควรแข็งค่าเกินระดับดังกล่าวไปมากนัก

ทำให้ผู้ประกอบการอย่างฝั่งผู้นำเข้าควรเตรียมพร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ แต่เราเห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นจริง ส่วนนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทยตามคาด

ทว่า เงินบาทก็อาจยังได้แรงหนุน ตราบใดที่ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้ ทั้งนี้ เราขอย้ำว่า ในเชิง valuation เงินบาทนั้นอยู่ในโซน Overvalued มากขึ้น

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า Two-Way Volatility ยังคงเป็นธีมหลักของเงินดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นบ้าง หากตลาดทยอยลดความคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องเห็นภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ไม่ได้เลวร้ายนัก แต่หากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด เงินดอลลาร์ก็เสี่ยงอ่อนค่าต่อ ตามความเชื่อมั่นการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดที่จะสูงขึ้น

เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.00-32.85 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.20-32.45 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของจีน)

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


สาวนครราชสีมาล้างตาคาซัคฯ คว้าที่ 3 ศึกวอลเลย์บอลสโมสรหญิงเอเชีย

“สาวย่าโม” สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี เล่นท็อปฟอร์มเอาชนะ กัวนิช วีซี จากคาซัคสถาน 3 เซตรวด คว้าเหรียญทองแดงมาครอง ในการแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2024

การแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเซีย ณ ชาติชายฮอลล์ จังหวัดนครราชสีมา ที่มี 8 สโมสรจากเอเชียเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อคัดเอา 2 ทีมเข้าไปแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์โลก 2024 ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2024  ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และ 2 ทีมจากเอเชียที่คว้าตั๋วไปแข่งขันสโมสรชิงแชมปโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ, NEC Red Rockets Kawasaki แชมป์ วี.ลีก จากประเทศญี่ปุ่น ทีมของ” เพียว” อัจฉราพร คงยศ   และ  LPBank Ninh Binh จากเวียดนาม ที่นำทัพโดย “ตู้เย็น” เหงียน ทิ บิค เตวียน  เป็นคู่ชิงชนะเลิศในศึกวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2024 

ส่วนการแข่งขัน เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบชิงอันดับ 3  ระหว่าง นักตบ “สาวย่าโม” สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี วีซี แชมป์ไทยแลนด์ลีก 6 สมัย และรองแชมป์สโมสรเอเซีย ปี 2021 ลงสนามพบกับ สโมสร Kuanysh VC จากคาซัคสถาน แชมป์ปี 2022  ที่ “สาวย่าโม” พ่ายมาในการแข่งขันรอบแรก 2-3 เซต  ส่งผลให้เกมในนัดนี้ นักตบ “สาวแคทเดวิล” ต้องวางแผนการเล่นกันใหม่เพื่อหวังจะล้างตามและคว้าอันดับ 3

เกมนัดนี้ นักตบ “สาวย่าโม” ที่มีหัวเสามือเก๋า อดีตทีมชาติไทย อรอุมา สิทธิรักษ์ นักตบสาวตำนาน 7 เซียน , “ออมสิน” ศศิภาพร จันทรวิสูตร, สิริมา มานะกิจ และ 3 ผู้เล่นต่างชาติที่เอาลงสนามฟูลทีม ทำให้เกมในนัดนี้ “สาวย่าโม” เล่นได้ดีกว่าเกมในรอบแรก โดยเฉพาะผู้เล่นต่างชาติที่เริ่มจะเข้ากับมือเซตของทีม ทำให้เกมในนัดนี้สาวย่าโม โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะสโมสร Kuanysh VC จากคาซัคสถาน 3 เซตรวด (25-22, 25-18, 25-21) ล้างตาได้สำเร็จ คว้าอันดับ 3 มาครอง เป็นเหรียญรางวัลเหรียญที่สอง การแข่งขันสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย หลังจากที่เคยคว้าเหรียญเงินมาเมื่อปี 2021 

สำหรับ สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี วีซี มาเข้ามาแข่งขันรายการ สโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย ครั้งนี้เป็นสมัยที่ 3 โดยครั้งแรกเมื่อปี 2014  และสโมสรนครราชสีมาจบอันดับ 5 จากนั้นในปี 2021 คว้าเหรียญเงินมาครอง และปี 2024  คว้าเหรียญทองแดงมาครอง แต่ยังไม่ดีที่จะคว้าตั๋วไปแข่งขันสโมสรชิงแชมป์โลก

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


คำอวยพรวันเกิดลูกภาษาอังกฤษ สุดเก๋ ที่ไม่ใช่แค่ Happy Birthday

“Happy Birthday To You” เชื่อว่าาเป็นประโยคอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษที่ได้ยินกันบ่อยที่สุด เพราาะะมีความหมายตรงตัว และสามารถสื่อได้ชัดเจน แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าใช้ประโยคนี้อวยพรลูกในวันเกิดทุกปีจนเบื่อแล้ว วันนี้เราจะพามาดูประโยคอวยพรวันเกิดลูกสุดเก๋ ที่รับรองว่าลูกของคุณจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน

10 คำอวยพรวันเกิดลูกเป็นภาษาอังกฤษ

เพราะวันเกิดมีเพียงแค่ปีละหนึ่งครั้ง เชื่อว่าคนจำนวนมากให้ความสำคัญกับวันเกิด โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ใกล้จะถึงวันเกิด ซึ่งจะดีแค่ไหน หากครอบครัวให้ความสำคัญกับวันเกิดของลูกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเค้ก ของขวัญวันเกิด หรือคำอวยพรที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่เต็มเปี่ยมจากพ่อแม่ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อวนมาถึงวันเกิดอีกปีแล้ว ก็นึกไม่ออกว่าควรจะอวยพรว่าอย่างไรให้ลูกได้รับรู้ถึงความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก เราจึงได้รวบรวม 10 คำอวยพรวันเกิดสุดซึ้ง สำหรับวันเกิดที่สุดแสนจะพิเศษให้กับลูกของคุณ

  • Happy birthday. You give us a thousand reasons to smile every day. (สุขสันต์วันเกิด ลูกทำให้เรามีร้อยพันเหตุผลที่จะยิ้มทุกวันเลย)
  • Wishing you a lifetime of happiness, laughter and joy. (ขอให้ชีวิตของลูกมีแต่ความสุข ความยินดี และพบเจอแต่เสียงหัวเราะนะ)
  • Happy birthday to our little angel. Thanks for joining our life. The world is waiting to see your wonders. (สุขสันต์วันเกิดนางฟ้าตัวน้อยของเรา ขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพ่อแม่นะ โลกกำลังรอที่จะเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของลูกอยู่นะ)
  • What a perfect gift you are to us, Happy Birthday. (ลูกเป็นของขวัญที่แสนวิเศษของพ่อกับแม่ สุขสันต์วันเกิดนะ)
  • Your presence brings joy and happiness to the lives of so many. (การปรากฎตัวของหนูนำพาความสุขมาให้กับคนมากมาย)
  • I hope you are always blessed with a fun life ahead of you. (แม่หวังว่าหนูจะมีชีวิตที่สนุกอยู่เสมอตลอดไปนะ)
  • Your Birthday is memorable and is a special day to me. Wishing you everlasting fun and Joy. (วันเกิดของลูกเป็นวันที่น่าจดจำและแสนพิเศษสำหรับแม่ ขอให้ลูกสนุกและมีความสุขตลอดไปนะ)
  • I wish you a fun-filled, bright, exciting and joyous birthday! (ขอให้วันเกิดของลูกเต็มไปด้วยความสุข แสงสว่าง และความสนุกสนาน)
  • To the world, you may just be one person. But to me, you are the world. (ลูกอาจเป็นเพียงคนคนหนึ่งในโลกนี้ แต่สำหรับแม่ ลูกเป็นโลกทั้งใบ)
  • I hope that all your stars keep shining and your biggest dreams come true. Congrats on another great year. (ฉันหวังว่าดวงดาวจะคอยส่องแสงอยู่ตลอด และขอให้ความฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณเป็นจริง ยินดีด้วยนะกับอีกปีที่ยอดเยี่ยม)

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


Digital Twin แบบจำลองดิจิทัล | พิเศษ เสตเสถียร

แบบจำลองดิจิทัล (Digital Replicas) หรือที่เรียกกันว่า “ฝาแฝดดิจิทัล” (Digital Twin) คือการจำลองเสมือนจริงของวัตถุหรือระบบทางกายภาพ กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิต การดูแลสุขภาพ และสถาปัตยกรรม

ตัวอย่างของแบบจำลองทางดิจิทัลเช่น  บริษัทรถยนต์ Volvo ใช้แบบจำลองเสมือนจริง (Virtual replicas) เพื่อทดสอบและลองใช้วัสดุและอากาศพลศาสตร์ที่แตกต่างกันในการออกแบบรถยนต์ใหม่ ด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถเลือกการออกแบบในอุดมคติที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพและสร้างโมเดลที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้

หรือในทางการแพทย์ บริษัทเช่น GE หรือ Siemens กำลังสร้างแบบจำลองดิจิทัลของผู้ป่วย โดยวิธีการนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถจำลองและคาดการณ์ผลกระทบของการรักษาเป็นรายบุคคลได้

การใช้แบบจำลองดิจิทัลแผ่ขยายไปทุกวงการ ในแง่หนึ่งแบบจำลองดิจิทัลมีประโยชน์มากมาย เช่น ปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย ในทางกลับกัน แบบจำลองดิจิทัลก็ก่อให้เกิดผลกระทบทางกฎหมาย

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียได้ลงนามในกฎหมายชื่อ AB 2602 ซึ่งเป็นกฎหมายทีกล่าวถึงการใช้แบบจำลองดิจิทัลของนักแสดง

กฎหมายนี้กำหนดให้มีสัญญาของข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับการใช้แบบจำลองเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแบบจำลองดิจิทัลเข้ามาแทนที่งานที่นักแสดงจะต้องทำด้วยตนเอง

กฎหมายมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่านักแสดงมีอำนาจควบคุมวิธีการใช้ภาพลักษณ์ดิจิทัลของตน และได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม

กฎหมายนี้ได้รับอิทธิพลจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้เสียงและภาพลักษณ์ของนักแสดงในทางที่ผิด ด้วยการเพิ่มขึ้นของ AI ที่สร้างขึ้น อันจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น วิดีโอเกม ภาพยนตร์ และโฆษณา

คำจำกัดของกฎหมายครอบคลุมถึงการนำเสนอแบบดิจิทัลหลากหลายรูปแบบที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งรวมถึงสิ่งที่สร้างขึ้นโดย AI, deepfakes และเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ หากสัญญาเกี่ยวข้องกับการสร้างหรือการใช้แบบจำลองดิจิทัลของนักแสดงในการแสดงที่กำหนดไว้ในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2025 ต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้

ในกฎหมายไทย พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ให้ความคุ้มครองงานต้นฉบับของผู้สร้างสรรค์ ซึ่งรวมถึงงานศิลปกรรม งานวรรณกรรม และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การคุ้มครองนี้จะครอบคลุมถึง “แบบจำลองดิจิทัล” ด้วยหรือไม่?

กฎหมายย่อมไม่ได้พูดถึง “แบบจำลองดิจิทัล” ไว้โดยตรง กฎหมายที่มีอยู่จะปรับใช้ได้ไหม หรือจะต้องออกกฎหมายใหม่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เกิดปัญหากับกฎหมายที่มีอยู่เสมอ. 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


คอเลสเตอรอลสูง สูงแค่ไหน ถึงต้องกินยาลด

ผู้ที่มีปัญหา คอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินไป จำเป็นต้องลดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาภายหลังได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เส้นเลือดตีบอุดตัน เลือดไหลไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ และเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ยาลดคอเลสเตอรอล เป็นทางเลือกและวิธีการรักษาที่แพทย์จะพิจารณาให้กับผู้ป่วยบางรายที่มีความจำเป็นต้องลดคอเลสเตอรอลเพื่อป้องกันโรคอันตรายในอนาคต แต่ในบางรายอาจไม่จำเป็น หรือไม่สามารถใช้ยาลดคอเลสเตอรอลได้

ยาลดคอเลสเตอรอล

ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล แพทย์ฝ่ายเภสัชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า ยากลุ่มสแตติน เป็นยาลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) และช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดแดง เป็นยาที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือสมอง

คอเลสเตอรอล สูงแค่ไหน ถึงต้องกินยาลด

ในคนที่ยังไม่เป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน

  1. ระดับ LDL มากกว่าหรือเท่ากับ 190 mg/dL
  2. ระดับ LDL 70-189 mg/dL และเป็นเบาหวานร่วมด้วย
  3. มีความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันใน 10 ปี มากกว่าหรือเท่ากับ 7.5% และกลุ่มสุดท้ายที่ได้ประโยชน์แน่นอนคือ
  4. ในคนที่มีภาวะหลอดเลือดอุดตันแล้ว เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ

ข้อควรทราบในการใช้ยาสแตติน

  1. แม้ค่าไขมันจะอยู่ในระดับปกติ แต่ผู้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือสมองยังจำเป็นต้องได้รับยาสแตตินตลอดไป เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค
  2. ผู้ที่ยังไม่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองที่มีไขมัน LDL สูงในเลือด และมีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคเท่านั้น ที่จะได้รับประโยชน์จากสแตติน โดยประเมินจากระดับ LDL และ HDL ร่วมกับเพศ อายุ ประวัติการมีภาวะความดันเลือดสูง การเป็นโรคเบาหวาน และการสูบบุหรี่ เป็นต้น
  3. ผู้ที่ประเมินแล้วมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือสมอง (Thai CV rish score) ต่ำกว่า 10% ในระยะเวลา 10 ปี โดยทั่วไปมักไม่จำเป็นต้องได้รับสแตติน

คอเลสเตอรอลสูง ห้ามกินอะไร

  • ไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันปาล์ม กะทิ หนังสัตว์ เนื้อสัตว์แปรรูป
  • อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่ปลา ไข่แดง ตับ ปลาหมึก
  • ไขมันทรานส์ เช่น เนยเทียม ครีมเทียม ขนมอบที่มีไขมันสูง
  • อาหารหวานและน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มชูกำลัง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


5 ประโยชน์ดีๆ จาก “ย่านาง” ดีท็อกซ์ผิว-ลดน้ำตาลในเลือด

ใครที่ชอบทานหน่อไม้ อาจจะได้ยินคำว่า “ย่านาง” บ่อยๆ เพราะเป็นพืชที่ใช้ต้มร่วมไปกับหน่อไม้ เพื่อให้รสชาติขมๆ ของหน่อไม้ลดหายไป น้ำต้มออกมาสีเขียวๆ อาจดูไม่น่าทานนัก แต่รับรองว่ามีประโยชน์มากมายโดยที่คุณอาจคาดไม่ถึง

ย่านาง คืออะไร?

ย่านางเป็นพืชที่เรานำส่วนใบมาประกอบอาหาร ส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นบ้าน มักนำมาต้มกับอาหารที่มีรสขม เพื่อลดรสชาติขมๆ ออกไป นอกจากจะช่วยลดความขมแล้ว ยังมีสารอาหารหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

ประโยชน์ของย่านาง

1. มีวิตามินเอ และซีสูง จึงช่วยบำรุงสายตา และบำรุงฟัน ป้องกันโรคหวัดได้เป็นอย่างดี

2. มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับพิษ และลดไข้

3. น้ำต้มกับใบย่านาง หรือน้ำย่านางสกัดเย็น (อาจผสมใบเตย) ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน

4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณกระชับเต่งตึง และป้องกันมะเร็งได้

5. ช่วยลดอาการหอบ ของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น

ถึงแม้ว่าย่านางจะมีประโยชน์ที่ทำให้ใครหลายคนอยากลองทาน แต่ผู้ที่มีธาตุเย็น หรือความดันโลหิตต่ำ เลือดจาง และอ่อนเพลียง่าย ไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะยิ่งทำให้เลือดจางและอ่อนเพลียมากขึ้นค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 30/09/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,550.0040,650.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,627.0039,825.3241,150.00
ทองรูปพรรณ 90%2,364.3035,842.79n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,101.6031,860.26n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,182.0017,919.12n/a
ทองรูปพรรณ 40%919.0013,932.04n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,722.0041,265.52n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/09/2567


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.2535.2535.5535.2535.2535.2535.2535.2535.2535.25
แก๊สโซฮอล์ 9134.8834.8835.1834.8834.8834.8834.8834.8834.8834.88
แก๊สโซฮอล์ E2033.1433.1433.4433.1433.1433.1433.1433.1433.14
แก๊สโซฮอล์ E8532.8932.8932.89
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม43.8449.8449.8449.8443.84
เบนซิน 9543.4449.8143.9443.5943.44
ดีเซล32.9432.9433.2432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV18.5918.5918.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า