สาระน่ารู้ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2564

RML เล็งเปิดใหม่ 3 โครงการหรู ครึ่งปี เผย กำไรโต 138.5%

RML เล็งเปิดใหม่ 3 โครงการหรู ครึ่งปี เผย กำไรโต 138.5%

บมจ.ไรมอนแลนด์ (RML ) เผย งบครึ่งปีแรก 64 กำไรโต 138.5% รายได้รวม 2,008.7 ล้านบาท แนวโน้มครึ่งปีหลัง เล็งเปิดโปรเจกต์ใหม่ 3 โครงการระดับอัลตร้าลักชัวรี่

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 64 บริษัทมีรายได้รวม 2,008.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,049.4 ล้านบาท จำนวน 959.3 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 91.4% โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นกว่าเดิมจาก 9.3% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 24.9% และมีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 269.9 ล้านบาท จำนวน 373.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 138.5%

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/64 บริษัทมีรายได้รวม 409.5  ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 625.8 ล้านบาท จำนวน 216.3 ล้านบาท หรือ ลดลง 34.6% อย่างไรก็ดีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจาก 7.8% เป็น 25.8% ส่งผลให้ขาดทุนสุทธิลดลงจาก 130.4 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นขาดทุนเพียง 34.3  ล้านบาทในไตรมาสนี้

ด้านยอดขาย (Presales) ของบริษัทครึ่งปีแรก 64 อยู่ที่ 1,469.1 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,881.2 ล้านบาท จำนวน 412.1 ล้านบาท หรือลดลง 21.9% อีกทั้ง บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2564 อยู่ที่ 5,655.1 ล้านบาท โดยเป็นยอดรอรับรู้รายได้จากโครงการ The Lofts Silom (เดอะ ลอฟท์ สีลม) จำนวน 43.2% และโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนอื่นๆ อาทิ The River (เดอะ ริเวอร์)  The Lofts Asoke (เดอะ ลอฟท์ อโศก) The Diplomat 39 (เดอะ ดิโพลแมท 39) และ อื่นๆ อีก 1.8%

RML เล็งเปิดใหม่ 3 โครงการหรู ครึ่งปี เผย กำไรโต 138.5%

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากการจัดโปรโมชั่นเร่งการขายและโอนรับรู้รายได้จากโครงการ เดอะ ลอฟท์ สีลม และ เดอะ ริเวอร์ ประกอบกับบริษัทได้ปิดโครงการเก่าที่มีส่วนลดพิเศษทั้งหมดแล้วในปีที่ผ่านมาทำให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นในงวดนี้ ขณะที่รายได้ไตรมาส 2/64 เติบโตลดลง เนื่องจากจำนวนยูนิตในโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน อาทิ โครงการ เดอะ ริเวอร์  เดอะ ลอฟท์ อโศก และ โครงการอื่นๆ ทยอยจำนวนลดน้อยลงเนื่องจากปิดการขายได้ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 2 ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ

RML เล็งเปิดใหม่ 3 โครงการหรู ครึ่งปี เผย กำไรโต 138.5%

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากกำลังซื้อของประชาชนส่วนใหญ่มีการชะลอตัว อีกทั้งมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้าง และ ห้ามเคลื่อนย้ายกลุ่มแรงงานก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้กำหนดการเปิดโครงการอสังหาฯหลายแห่งมีความล่าช้าจากแผนการดำเนินงานที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวอาจมีแนวโน้มคลี่คลาย ภายหลังจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นที่จะดึงบรรยากาศและความมั่นใจในการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ตลอดจนลูกค้าชาวต่างชาติให้กลับมา และด้วยศักยภาพของตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวรี่ ทำเลใจกลางเมืองที่มีจำนวนจำกัด ยังคงมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัย หรือซื้อไว้เพื่อลงทุน ทำให้คอนโดมิเนียมลักชัวรี่   มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อระดับสูง

ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทดำเนินการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมระดับ อัลตร้าลักชัวรี่และเปิดขายจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ The Estelle Phrom Phong  (ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์) ความคืบหน้าการก่อสร้าง 45%  และ โครงการ TAIT Sathorn 12 (เทตต์ สาทร ทเวลฟ์) ความคืบหน้าการก่อสร้าง 21%

อีกทั้ง ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการอาคารสำนักงาน One City Centre (วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์) หรือ OCC ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท กับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย มีความคืบหน้าก่อสร้างกว่า 47% นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูงระดับอัลตร้าลักชัวรี่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบนพื้นที่ทำเลสุขุมวิท 38, โครงการสุขุมวิทตอนกลาง และ โครงการ Ocean Front Beach จ.ภูเก็ต อย่างไรก็ดีบริษัทมีการติดตามสภาพตลาดและมาตรการภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ASW โชว์กำไร Q2 พุ่งกว่า 76% พร้อมจ่ายปันผล

ASW โชว์กำไร Q2 พุ่งกว่า 76% พร้อมจ่ายปันผล

บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดงบไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิแตะ 258.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.1 % และมีรายได้รวม 1,107.2 ล้านบาท บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผล ฟากซีอีโอ “กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ” ย้ำมั่นใจผลงานปี 64 โตตามเป้า 20% ยอดขายรอโอนกว่า 7.7 พันล้านบาท

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 อยู่ในภาวะเติบโตแม้เผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 258.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.1 % และมีรายได้รวม 1,107.2   ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.6% อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 47.1 % และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 23.2 % ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 578.3  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.7% จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 2,281.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.8% 

ASW โชว์กำไร Q2 พุ่งกว่า 76% พร้อมจ่ายปันผล

ทั้งนี้สืบเนื่องจากลูกค้ามั่นใจในโครงการของบริษัทฯ และโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ออกโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์หลากหลายเพื่อกระตุ้นการโอนกรรมสิทธิ์ โดยรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์จากแบรนด์ Kave เป็นสัดส่วน 63% แบรนด์ Atmoz 22 % แบรนด์ Modiz 3% ตามลำดับ ส่วนที่เหลืออยู่ในแบรนด์อื่นๆ และเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ) อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นหุ้นและเงินสด โดยมีสัดส่วนจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และการจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.02206 บาท เป็นเงิน 16,787,660 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 4 ตุลาคม 2564

มั่นใจโตตามเป้า ชู Backlog 7,700 ล้าน

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทฯ ยังมั่นใจเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ ร่วมกับกลยุทธ์การขายและการตลาดที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ โดยวางแผนเปิดขายโครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 9,700 ล้านบาท ล่าสุดประเดิมด้วยการเปิดสำนักงานขาย โครงการ “แอทโมซ บางนา” (Atmoz Bangna) มูลค่า 2,200 ล้านบาท กระแสตอบรับเป็นไปอย่างดีเยี่ยมทั้งจากลูกค้าเก่าที่ติดตามโครงการของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องและลูกค้าใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในสินค้าที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยของการให้บริการของ ASW แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ASW โชว์กำไร Q2 พุ่งกว่า 76% พร้อมจ่ายปันผล

ขณะเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 7,700 ล้านบาทโดยจะมี 2 โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้  ในไตรมาส 3  ได้แก่ “เคฟ ทียู” (Kave TU)มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท มียอดขายกว่า 90% และ “โมดิซ สุขุมวิท 50” (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลงานในปี 2564 สามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมีรายได้เติบโตระดับ 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 4,205 ล้านบาท

“ASW ยังคงเชื่อมั่นที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้รายได้ยังคงเติบโตอยู่กว่า 51% บริษัทฯ ยังคงเน้นกลยุทธ์การขายและการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และปรับตัวทันสถานการณ์ ซึ่งดูจากยอดขายในไตรมาสที่ผ่านๆ มา    ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม  นอกจากนี้ ASW ยังมีแคมเปญที่โดนใจกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยมีการเชิญชวนพันธมิตรหลากอาชีพมาร่วมรีวิวโครงการของ ASWเพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ควบคู่ไปกับการกระตุ้นกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความตั้งใจของ ASW ที่ต้องการเติบโตควบคู่ไปกับสังคมและชุมชน”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ASW ยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจและการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ อาทิเช่น บริษัทฯ ได้มีการร่วมมือกับบริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาและลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดธุรกิจและสามารถปรับตัวสู่นวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ผลักดันการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


แบงก์ชาติเสนอกู้1ล้านล้านบาท กู้เศรษฐกิจด่วน

แบงก์ชาติเสนอกู้1ล้านล้านบาท กู้เศรษฐกิจด่วน

แบงก์ชาติเสนอกู้1ล้านล้านบาท กู้เศรษฐกิจด่วน จี้เร่งฉีดวัคซีนหากทำไม่ได้ ไม่มีทางแก้เรื่องอื่นได้

ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เสนอให้รัฐบาลกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท อัดฉีดเศรษฐกิจจากพิษโควิดที่ทำเศรษฐกิจวูบหายไป 1.8 ล้านล้านบาท หรือ 10% ของจีดีพี ซึ่งเป็นมูลค่าที่หายไปจำนวนมาก

ทั้งนี้การกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มสูงขึ้นเป็น 70% ในปี 2567 หลังจากนั้นจะเริ่มลดลง ซึ่งไม่กระทบต่อฐานะการคลัง เพราะหากเร่งกู้ตอนนี้จะทำให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีใน 10 ปี ข้างหน้า น้อยกว่าการกู้ช้า

นอกจากนี้ในอนาคต ประเทศไทย ต้องควรขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็น 10% ซึ่งการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 1% จะทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งแม้ว่ายังไม่เหมาะสมขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มตอนนี้ แต่ในอนาคตหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า การแก้ปัญหาวิกฤตโควิดที่กระทบเศรษฐกิจที่รุนแรงตอนนี้ ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ ต้องใช้ยาแรงและให้ตรงจุด ซึ่งสิ่งที่มีความสำคัญมากคือเรื่องสาธารณสุข คือ การฉีดวัคซีน ถ้าไม่ทำตัวนี้ ทำให้ตายก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ตอนนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีน 2 เข็ม เพียง 7% ต่ำกว่าประเทศแล้วเข้าใจได้ แต่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านถือเป็นเรื่องแปลก

สำหรับมาตรการช่วยเหลือของ ธปท. เรื่องการปล่อยกู้ซอฟท์โลน มีการแก้ไขกฎหมายให้คล่องตัวมากขึ้น และยังมีโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ที่ยังล่าช้าเพราะมีขั้นตอนดำเนินการมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


รู้จัก “ซาราห์ กิลเบิร์ต” ผู้หญิงที่คนทั่วสนามวิมเบิลดันปรบมือกึกก้อง

รู้จัก "ซาราห์ กิลเบิร์ต" ผู้หญิงที่คนทั่วสนามวิมเบิลดันปรบมือกึกก้อง

เทนนิส วิมเบิลดัน ถูกยกเลิกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อปี 2020 หลังจากไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก รวมถึงอังกฤษ สถานที่จัดการแข่งขัน เช่นกันกับหลากหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ที่ไม่อาจดำเนินไปได้เหมือนดั่งเคย

แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มทุเลาลง ทันเวลาก่อนที่วิมเบิลดันจะเริ่มเปิดฉากในปี 2021 ที่ทำให้แกรนด์แสลมบนคอร์ทหญ้ารายการนี้ กลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง พร้อมกับเสียงปรบมือดังกึกก้องตั้งแต่นัดเปิดสนาม ระหว่าง โนวัค ยอโควิช พบกับ แจ็ค แดรปเปอร์ ซึ่งเป็นการแข่งขันนัดแรกในรอบ 715 วันของวิมเบิลดัน

ทว่าเสียงปรบมือดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นจากชัยชนะของ ยอโควิช หรือเป็นการต้อนรับนักหวดท้องถิ่นอย่าง แดรปเปอร์ แต่เป็นการขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือท่านผู้หญิง (เดม) ดร. ซาราห์ กิลเบิร์ต ผู้อยู่เบื้องหลังการคิดค้นวัคซีน Oxford-AstraZeneca ขึ้นมา

มาทำความรู้จักกับเรื่องราวของนักวัคซีนวิทยารายนี้ กับเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นวัคซีนต้าน COVID-19 ที่ช่วยชีวิตคนนับล้านได้

ปีใหม่ที่แล้ว

ในขณะที่ทั่วทั้งโลกกำลังฉลองเข้าสู่ทศวรรษใหม่ ด้วยความหวังให้ปี 2020 ใจดีกับเรามากกว่าปีก่อนหน้าหน่อย (ซึ่งไม่เกิดขึ้นจริง) รายงานของอาการปอดบวมที่เกิดจากโคโรน่าไวรัส ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้ไปสะดุดตาของ ดร. ซาราห์ กิลเบิร์ต นักวัคซีนวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ผู้กังวลอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่ามันอาจแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้

Photo : northamptonchron.co.uk

“เราวางแผนและรอคอยโรคระบาด X มาสักพักแล้ว และเชื่อว่านี่คือสิ่งนั้นแน่ ๆ”

เหตุที่เธอพูดเช่นนั้น เพราะโคโรน่าไวรัส ได้ถูกแพร่จากสัตว์สู่คนมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ Sars ในปี 2002 และ Mers ในปี 2012

ด้วยความที่ทั้งสองครั้งข้างต้นนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบจนทำให้โลกทั้งใบแทบหยุดหมุน และบทเรียนจากการระบาดก่อนหน้านี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์พบจุดอ่อนของไวรัสดังกล่าวแล้ว จึงทำให้ ดร. กิลเบิร์ต และทีมของเธอ ได้เริ่มโปรเจกต์วัคซีนขึ้นมา

ดร. กิลเบิร์ต เปิดเผยกับทาง BBC ว่า “ฉันคิดว่ามันคงเป็นแค่โปรเจกต์ธรรมดา ที่เราผลิตวัคซีนได้ แล้วไวรัสก็คงค่อย ๆ หายไป”

“แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น”

ความโชคดีในความโชคร้าย

จะเรียกว่าการระบาดของ COVID-19 คือความโชคดีก็คงไม่ถูกต้อง เพราะด้วยยอดผู้เสียชีวิตทั่วทั้งโลกกว่า 4 ล้านคน กับการพังทลายในแทบจะทุกมิติของสังคม มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีอยู่แล้ว

แต่หากมองในมุมที่ว่า นักวิทยาศาสตร์ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจาก 0 เพื่อเรียนรู้ว่าไวรัสตัวดังกล่าวมีลักษณะหรือพฤติกรรมอย่างไร ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลย

Photo : telegraph.co.uk

ดร. กิลเบิร์ต ผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาวัคซีนสำหรับอีโบล่า และ Mers มาแล้ว ได้เริ่มศึกษาโครงสร้างทางพันธุกรรมของ COVID-19 แทบจะในทันทีที่นักวิทยาศาสตร์จีนเปิดเผยข้อมูลออกมา โดยเพื่อนร่วมงานของเธอยังกล่าวเลยว่า “เพียงสุดสัปดาห์เท่านั้น เราก็แทบจะดีไซน์วัคซีนได้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก”

ไม่กี่อาทิตย์หลังจากทราบข่าวการระบาด วัคซีนตัวแรกที่สามารถจัดการกับ COVID-19 ในห้องทดลองก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ก่อนจะถูกนำมาทดสอบกับมนุษย์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2020 หลังผ่านการทดสอบกับสัตว์ และตรวจเช็คคุณภาพเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจนมั่นใจแล้ว

การทำงานของวัคซีนจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด แบบคร่าว ๆ คือการนำไวรัสชนิดอื่นมาเป็นพาหะเพื่อนำวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย โดยใช้เชื้อไวรัสอะดีโน ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่สามารถแบ่งตัวได้ พร้อมกับเพิ่มโปรตีนส่วนที่เป็นปุ่มหนามของเชื้อไวรัส COVID-19 เข้าไป

เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว มันจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย แบบเดียวกับการติดเชื้อตามธรรมชาติ โดยกระตุ้นให้เซลล์ที่เจริญเติบโตแถวต่อมไธมัสบริเวณลำคอ หรือ T-cell ที่เป็นตัวหลักของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เนื่องจากมันมีอายุอยู่ในร่างกายได้นานถึง 9 ปี จึงสามารถทั้งจดจำ และตอบสนองกับไวรัสตัวดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

ทีนี้ การพัฒนาวัคซีนในโลกแห่งความเป็นจริง ก็ยังคงต้องพึ่งพาปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งสิ่ง นั่นคือเรื่องของ “เงิน”

เราไม่ค้ากำไรจากวัคซีน

“เราเป็นมหาวิทยาลัย และเราไม่ได้มาหากำไรจากการทำสิ่งนี้” คือคำมั่นสัญญาที่ ดร. กิลเบิร์ต ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นของการทำวัคซีนนั้น ทีมของเธอก็แทบจะหมดเงินในบัญชีไปแล้ว

เพราะการผลิตวัคซีนมีต้นทุนที่สูงมาก จนทำให้ ดร. กิลเบิร์ต แทบจะต้องใช้เวลาทั้งหมดหลังจากออกแบบวัคซีนได้แล้ว ไปกับการหาเงินทุนจากแหล่งต่าง ๆ เป็นหลัก

แม้ว่าทางทีมของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จะมีโรงงานผลิตวัคซีนเป็นของตัวเองก็ตาม แต่สำหรับการเดินสายงานผลิตมากกว่า 1,000 โดส เพื่อใช้ในการทดลอง และการผลิตแบบจำนวนมากหลังจากนั้นสำหรับการใช้จริง พวกเขายังจำเป็นต้องการโรงงานที่ใหญ่กว่านี้ ซึ่งเม็ดเงินและการสนับสนุนก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา หลังจากสถานการณ์เริ่มวิกฤติลงในหลายประเทศ เมื่อช่วงเดือนเมษายนของปี 2020

นั่นรวมถึงการเข้ามาร่วมมือกับทีมของ ดร. กิลเบิร์ต โดย AstraZeneca บริษัทยาสัญชาติอังกฤษและสวีเดน ที่เข้ามาช่วยเหลือในด้านการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายวัคซีนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2020 เป็นต้นมา

ด้วยเงินทุนสนับสนุน ควบคู่ไปกับการระบาดที่ทั่วทั้งโลกต่างประสบพบเจอ จึงทำให้การทดลองทั้ง 3 ขั้นกับอาสาสมัครนั้น ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ก่อนที่วัคซีน Oxford-AstraZeneca จะได้รับอนุมัติให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบใน บราซิล และ ออสเตรเลีย โดยมีอีก 170 ประเทศทั่วโลก ที่ให้ใช้งานได้ในกรณีฉุกเฉินอยู่ในขณะนี้ โดยมีสายการผลิตอยู่ตามโรงงานต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก เพื่อเร่งให้ทันกับยอดการส่งมอบวัคซีน 3,000 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2021 นี้

แน่นอนว่า ดร. กิลเบิร์ต เหมาะสมและควรค่าแก่การได้รับเสียงปรบมืออย่างยิ่ง เมื่อความมุ่งมั่นในสายงานของเธอ ได้มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้โลกใบนี้ กลับมาใกล้เคียงกับชีวิตอันปกติมากยิ่งขึ้น

ต้องยินดีกับหลายประเทศจริง ๆ ที่พวกเขาเห็นคุณค่าของชีวิตผู้คน และจัดลำดับความสำคัญเพื่อให้เราก้าวเดินต่อไปได้ ภาพของผู้คนเต็มสนามในวิมเบิลดัน รวมถึงการแข่งขันกีฬาอีกหลายรายการ อาจทำให้เกิดการระบาดใหม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผู้ที่ติดเชื้อในระลอกนี้ จะมีอาการหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้มากเท่าแต่ก่อนแล้ว

“ตั้งแต่จุดเริ่มต้น เรามองว่านี่คือการแข่งขันกับไวรัส ไม่ใช่การแข่งกับผู้ผลิตเจ้าอื่น” คือหนึ่งในประโยคที่ ดร. กิลเบิร์ต ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้

แต่กับสถานการณ์ในตอนนี้ เราอาจต้องเพิ่มเข้าไปหน่อยว่า “แม้ไวรัสจะไม่รู้ว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าไปเนี่ย เป็นยี่ห้ออะไร แต่ร่างกายของเรารู้ และการเลือกวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเข้ามานั้น ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้จริง ในเมื่อมีผู้ผลิตที่หลากหลาย เราก็ควรเลือกของที่มีการรับรองแล้วว่าใช้ได้ดีที่สุดไม่ใช่หรือ”

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


สาเหตุของ “เสมหะหลังตื่นนอน” เสี่ยงโรคอะไรบ้าง

สาเหตุของ "เสมหะหลังตื่นนอน" เสี่ยงโรคอะไรบ้าง

ใครมีเสมหะหลังตื่นนอนตอนเช้าบ่อยๆ บ้าง มีสาเหตุจากอะไร

รศ.นพ.ทรงกลด เอี่ยมจตุรภัทร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า “เสมหะ” เป็นสารคัดหลั่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อเจอสิ่งระคายเคือง เช่น ฝุ่น เกสร หรือการติดเชื้อโรคต่างๆ โดยร่างกายจะสร้างมูกออกมา และเมื่อมูกในจมูกใหลลงคอ หรือมูกที่อยู่ในคอเอง หรือมูกในหลอดลมที่ถูกขับขึ้นมาอยู่ที่คอก็จะกลายเป็นเสมหะอยู่ในลำคอ

สาเหตุของการมีเสมหะหลังตื่นนอน

  • การระคายเคืองในลำคอ

พฤติกรรมขณะนอนหลับบางอย่างอาจทำให้อากาศเข้าสู่ลำคอ ส่งผลให้ลำคอแห้งและเย็น ร่างกายจึงส่งความชุ่มขึ้นเป็นเสมหะออกมา ทำให้มีเสมหะในลำคอตอนตื่นนอน

  • โรคไซนัสอักเสบ

ผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบมักมีน้ำมูกไหลลงคอและกลายเป็นเสมหะที่มักมีสีเขียวหรือเหลือง

  • โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้และไม่ใช่ภูมิแพ้

ผู้ป่วยภูมิแพ้มักมีอาการคัดจมูก คันจมูก จาม และน้ำมูก บางคนมีอาการไอโดยเฉพาะเมื่อพบสิ่งระคายเคืองหรืออากาศเปลี่ยน เมื่อน้ำมูกไหลลงคอจะทำให้มีเสมหะขาวใสในคอ

  • โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง

มีการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม มูกในหลอดลมจะถูกขับออกมา ผู้ป่วยจึงมีเสมหะในลำคอ โดยเฉพาะตอนนอนหลับที่ร่างกายขับเสมหะได้ไม่ดี ทำให้ตอนตื่นนอนพบว่ามีเสมหะเหนียวข้นอยู่ในลำคอ

คำแนะนำจากแพทย์ เมื่อมีเสมหะหลังตื่นนอน

หากมีเสมหะหลังตื่นนอน ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อละลายเสมหะ แต่ถ้ายังมีเสมหะมากนานหลายวัน ควรพบแพทย์หู คอ จมูก เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


30 คำคมความรัก ภาษาอังกฤษแปลไทย สุดหวาน โพสต์แล้วซึ้งมาก

30 คำคมความรัก ภาษาอังกฤษแปลไทย สุดหวาน โพสต์แล้วซึ้งมาก

มันก็มีบางครั้งแหละที่ช่วงเวลาอินเลิฟ หรือเหงาๆ เราจะโพสต์อะไรที่มัน เพ้อๆ หน่อย แต่ในบางครั้งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโพสต์อะไรดี เพราะนึกไม่ออก สมองไม่แล่น หรือเบื่อกับแคปชั่นซ้ำๆ ที่เคยเจออยู่บ่อยๆ ถ้ามีปัญหาอย่างนั้นอยู่ เราก็มี คำคมความรัก แบบเด็ดๆ ที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ ในแบบที่ชิคๆ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษแปลไทย ที่มีความหมายสุดซึ้ง รับรองว่าโพสต์ไปแล้วจะดูเก๋ ดูเริดเรียกยอดไลก์ได้รัวๆ อย่างแน่นอน

You may hold my hand for a while, but you hold my heart forever.

ถึงเธอจะกุมมือฉันแค่เวลาสั้นๆ แต่เธอจะกุมหัวใจของฉันตลอดไป

I know I am in love with you because my reality is finally better than my dreams.

ฉันรู้ว่าฉันมีความรัก ก็เพราะว่าในที่สุดชีวิตจริงของฉัน นั้นสวยและดีงามกว่าความฝัน

I need you like a heart needs a beat.

ฉันต้องการเธอ พอๆ กับหัวใจที่ต้องเต้นอยู่ตลอดเวลา

Every time I see you, I fall in love all over again.

ทุกๆ ครั้งที่ฉันเห็นเธอ ฉันเหมือนตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

If I know what love is, it is because of you.

ที่ฉันรู้ว่ารักคืออะไร ก็เป็นเพราะเธอ

The first time you touched me, I knew I was born to be yours.

ครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสฉัน ฉันรู้เลยว่าฉันเกิดมาเพื่อเป็นของเธอ

There are only two times that I want to be with you. Now and Forever.

มีแค่ 2 เวลาที่ฉันอยากจะอยู่กับเธอ นั่นก็คิอ ตอนนี้ และ ตลอดไป

Just when I think that it is impossible to love you any more, you prove me wrong.

เมื่อฉันคิดว่าคงเป็นไปไม่แล้วที่จะรักเธอมากกว่านี้แล้ว เธอก็ทำให้ฉันคิดผิดทุกที

Love is when the other person’s happiness is more important than your own.

ความรักคือเมื่อความสุขของอีกคนนั้นมีความสำคัญกว่าความสุขของตัวเอง

You can’t blame gravity for falling in love.

คงไปโทษแรงโน้มถ่วงไม่ได้สำหรับคำว่าตกหลุมรัก

If you live to be a hundred, I want to live to be a hundred minus one day, so I never have to live without you.

ถ้าเธอมีชีวิต 100 ปี ฉันอยากที่จะมีอายุ 100 ปี และลดไป 1 วัน เพราะฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ในวันที่ไม่มีเธอ

To the world, you may be one person, but to one person you are the world.

สำหรับโลกนี้ เธออาจจะเป็นเพียงแค่หนึ่งคน แต่สำหรับหนึ่งคนเธออาจจะเป็นโลกทั้งใบของคน คนนั้นก็ได้

Being In Love With You Makes Every Morning Worth Getting Up For.

การที่ได้รักเธอนั้นทำให้ทุกๆ เช้าคุ้มค่าที่จะได้ตื่นขึ้นมา

A simple ‘I love you’ means more than money.

คำว่าฉันรักเธอนั้นมีค่ามากกว่าเงินเสียอีก

Sometimes I can’t see myself when I’m with you. I can only just see you.

บางครั้งฉันมองไม่เห็นตัวเองเวลาที่อยู่กับคุณ เพราะว่าฉันมองเห็นแต่คุณเพียงคนเดียว

I may not be with you at all times, but I want you to know that you are never out of my heart.

ฉันอาจจะไม่ได้อยู่กับคุณตลอดเวลา แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่าเธอนั้นอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ

The most important thing in life is to learn how to give out love and to let it come in.

สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็คือ การเรียนรู้ที่จะให้ความรักออกไป และรับความรักกลับมา

I may not be your first date, kiss or love…but I want to be your last everything.

ฉันอาจจะไม่ใช่เดตแรก จูบแรก หรือ รักแรกของคุณ แต่ฉันอยากจะเป็นคนสุดท้ายในทุกๆ เรื่องของเธอ

My love for you is a journey. Starting at forever, and ending at never.

ความรักของฉันก็เหมือนการเดินทาง เริ่มต้นที่ตลอดไป และไม่มีวันสิ้นสุด

You have replaced my nightmares with dreams, my worries with happiness, and my fears with love.

เธอได้เปลี่ยนฝันร้ายของฉันด้วยฝันรัก ความกังวลของฉันด้วยความสุข และความกลัวของฉันด้วยความรัก

Life without love is like a tree without blossoms or fruit.

ชีวิตที่ปราศจากความรัก ก็เหมือนกับต้นไม้ที่ไม่มีดอก

“I love you” means that I will love you and stand by you even through the worst of times.

ฉันรักเธอ แลปว่า ฉันจะรักและยืนเคียงข้างเธอไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

There is only happiness in life, to love and to be loved.

ความสุขเดียวในชีวิตนั่นก็คือ การได้รักและการที่ถูกรัก

Where there is Love, There is Life.

ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีชีวิตชีวา

Come live in my heart and pay no rent.

เข้ามาอยู่ในหัวใจของฉันสิ เธอไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเช่าเลย

I look at you and see the rest of my life in front of my eyes.

ฉันมองเธอแล้วฉันเห็นช่วงชีวิตที่เหลือของฉันอยู่ตรงหน้า

I’m much more me when I’m with you.

ฉันเป็นตัวของตัวของตัวเองมากขึ้นเมื่อฉันอยู่กับเธอ

The heart wants what it wants.

หัวใจมันก็ต้องการสิ่งที่มันต้องการ

Love is like war: easy to begin but very hard to stop.

ความรักก็เหมือนสงคราม ง่ายที่จะเริ่ม แต่ยากที่จะหยุด

All of me loves all of you.

ทุกๆ สิ่งในตัวฉัน รัก ทุกๆ สิ่งทุกอย่างในตัวคุณ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Kuo รายงาน MacBook Air ดีไซน์ใหม่ อัปเกรดจอ Mini-LED หลากสีสัน เจอกันกลางปี 2022

Kuo รายงาน MacBook Air ดีไซน์ใหม่ อัปเกรดจอ Mini-LED หลากสีสัน เจอกันกลางปี 2022

เมื่อคืนนี้ Ming-Chi Kuo รายงานว่า แอปเปิ้ล (Apple) มีแผนที่จะเปิดตัว MacBook Air จอ mini-LED รุ่นใหม่ที่มาในหลากหลายสีสัน ในช่วงกลางปี 2022 ตามข้อมูลข่าวลือก่อนหน้านี้ทั้งจาก Mark Gurman และ Jon Prosser

Kuo ได้ระบุว่า MacBook Air รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ ซึ่งจะคล้าย ๆ กับ MacBook Pro ดีไซน์ใหม่ที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ ที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนหน้าจอไปใช้จอ mini-LED และมีส่วนฝาด้านบนและตัวเครื่องด้านล่างที่เรียบมากยิ่งขึ้น รวมถึงจากในข่าวลือก่อนหน้านี้อาจจะมีการอัปเกรดชิป Apple Silicon ที่แรงขึ้น และพอร์ตการชาร์จเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยี MagSafe แทน

นอกจากนี้ Kuo ยังไม่แน่ใจว่า เมื่อ MacBook Air รุ่นใหม่เริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตแล้ว แอปเปิ้ลจะหยุดจำหน่าย MacBook Air M1 รุ่นปัจจุบันหรือไม่ เพราะถ้าหากหยุดจำหน่ายรุ่นปัจจุบัน รุ่น mini-LED อาจจะมีราคาเริ่มต้นที่เท่ากับปัจจุบัน แต่ถ้ายังจำหน่ายควบคู่กันไป MacBook Air M1 อาจมีการลดราคาให้ถูกลง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“Bio-Bricks” อิฐจากปัสสาวะมนุษย์วัสดุชีวภาพแห่งอนาคต พลิกวงการสถาปัตยกรรม

เมื่อกิจวัตรประจำวันของมนุษย์ ที่ถือได้ว่าเป็นของเหลวซึ่งไตขับออกมาจากสารอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวันอย่าง ‘ปัสสาวะ’ ถูกนำมาดัดแปลงสู่วัสดุก่อสร้างที่มีความโดดเด่นจนไม่อาจมองข้ามได้

วันนี้ BuilderNews จึงอยากแนะนำให้รู้จัก Bio-Bricks” อิฐชีวภาพที่ผลิตมาจากปัสสาวะมนุษย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัสดุชีวภาพทางเลือกที่น่าจับตามองในวงการสถาปัตยกรรม

อะไรคือ Bio-Bricks ?

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์ทุกคน คงจะหนีไม่พ้นกิจวัตรประจำวันอย่างการ ‘ปัสสาวะ’ หรือที่หลายคน ๆ เรียกง่าย ๆ ว่าการเยี่ยวหรือการฉี่ตามความถนัดกัน เนื่องจากเป็นธรรมดาของร่างกายเราที่ปัสสาวะคือของเสียในรูปของเหลวที่ร่างกายขับถ่ายออกมาโดยไต ด้วยกระบวนการกรองจากเลือดและขับออกทางท่อปัสสาวะ แต่ทว่าความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันให้กลายเป็นวัสดุชีวภาพที่สามารถนำมาใช้ในวงการสถาปัตยกรรมได้

Bio-Bricks จึงถูกคิดค้นขึ้นโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคปทาวน์อย่างซูซาน แลมเบิร์ตได้วิจัยและสร้างวัสดุก่อสร้างโดยใช้ปัสสาวะมนุษย์ จากแนวคิดการลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดให้เหลือน้อยที่สุดจนเป็นศูนย์หรือ Zero Waste สำหรับใช้เป็นวัสดุทางเลือก เพื่อทดแทนอิฐจากเตาเผาที่ก่อให้เกิดผลเสียมากมายต่อสิ่งแวดล้อม

จากกิจวัตรประวันที่แสนจะจำเจสู่วัสดุก่อสร้าง Bio-Bricks

ปัสสาวะของมนุษย์ถูกนำมาพัฒนาเป็น Bio-Bricks วัสดุก่อสร้างที่เกิดจากของเสียของมนุษย์และแบคทีเรียที่ยังมีชีวิต ซึ่งสามารถผลิตออกมาได้ตามขนาด รูปร่าง หรือความแข็งแรงที่ต้องการและพอที่จะเป็นทางเลือกทดแทนอิฐแบบดั้งเดิมได้จริง ซึ่งอิฐดั้งเดิมต้องผ่านการเผาที่อุณหภูมิสูงกว่า 1,400 องศาเซลเซียส และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลออกสู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านการวิจัยโดยทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเคปทาวน์

กระบวนการวิจัยของ Bio-Bricks ผ่านกระบวนการการตกตะกอนคาร์บอเนตด้วยจุลินทรีย์ หรือ Microbial Carbonate Precipitation ที่เปรียบเทียบวิธีการนี้เหมือนกับกระบวนการเกิดขึ้นของเปลือกหอย โดยการผสมปัสสาวะ ทรายและแบคทีเรียเข้าด้วยกัน เพื่อทำอิฐชีวภาพโดยการใส่แบคทีเรียลงไปในเม็ดทรายที่เกาะตัวอย่างหลวม ๆ จะทำให้เกิดเอนไซม์ที่เรียกว่ายูรีเอส ที่จะทำปฏิกิริยากับปัสสาวะและทำให้เกิดส่วนผสมที่คล้ายกับซีเมนต์ที่เชื่อมด้วยทราย โดยไม่ผ่านกระบวนการเข้าเตาอบที่มีความร้อนสูง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ

แต่อิฐชีวภาพชนิดนี้ผ่านกระบวนการทำให้ขึ้นรูปเป็นรูปร่างต่าง ๆ ทำให้แห้งด้วยอุณหภูมิห้องและใช้เวลาในการก่อตัวประมาณ 6-8 วัน เมื่อครบกำหนด ตัวอิฐจะมีความแข็งแรงเหมือนกับอิฐทั่วไปที่หาซื้อได้ตามตลาด และอิฐ 1 ก้อน จะต้องใช้ปัสสาวะมากที่สุดถึง 30 ลิตร เนื่องจากร้อยละ 90 ของปัสสาวะคนนั้นประกอบไปด้วยน้ำ นอกจากนี้ทางนักวิจัยยังบอกว่าหมดกังวลเรื่องกลิ่นของปัสสาวะเมื่อนำไปสร้างบ้าน เนื่องจากกลิ่นแอมโมเนียที่รุนแรงจากปัสสาวะจะหายไปในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังอิฐแห้งตัวลง

Bio-Bricks กับทางเลือกทดแทนอิฐทั่วไป

เห็นได้ชัดว่าในปัจจุบันนั้นกระแสการสร้างวัสดุก่อสร้างทดแทนจากธรรมชาติ ทำให้นักออกแบบหรือสถาปนิก หลาย ๆ คน หันมาให้ความสำคัญกับวัสดุทางเลือกกันมากยิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานทำให้เกิดผลกระทบกับโลกของเราอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งล้วนแล้วมาจากกระบวนการผลิตวัสดุก่อสร้าง ที่มีส่วนในการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 80% ของก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมา ส่งผลให้หลาย ๆ หน่วยงานหันมาทบทวนและหาทางแก้ไข เพื่อเป้าหมายของการลดโลกร้อนกันมากขึ้น รวมถึงพยายามที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์

สาเหตุหลัก ๆ เหล่านั้นทำให้วัสดุประเภทอิฐ จึงถูกเลือกนำไปพัฒนาวิจัยเพื่อหาวัสดุจากธรรมชาติหรือขยะ    รีไซเคิลต่าง ๆ มากมายมาวิจัย ซึ่งทำให้อิฐเป็นวัสดุที่กำลังเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจจากวิศวกรทั่วโลกแทนอิฐที่ผลิตขึ้นในโรงงาน เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาอิฐขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบที่ดีนั้น ไม่ใช่เรื่องของการออกแบบพื้นที่ให้มีความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่การเลือกวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้งานให้เหมาะสมเองก็นับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้เช่นกันกับภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 17/08/2564

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,150.0028,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,823.0027,636.6828,750.00
ทองรูปพรรณ 90%1,640.7024,873.01n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,458.4022,109.34n/a
ทองรูปพรรณ 50%820.0012,431.20n/a
ทองรูปพรรณ 40%638.009,672.08n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,889.0028,637.24n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/08/2564


ปตท.
ราคาน้ำมัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9529.8529.8529.8529.8529.8529.8529.8529.8529.8529.85
แก๊สโซฮอล์ 9129.5829.5829.5829.5829.5829.5829.5829.5829.5829.58
แก๊สโซฮอล์ E2028.3428.3428.3428.3428.3428.3428.3428.3428.34
แก๊สโซฮอล์ E8522.8422.8422.84
เบนซิน 9537.2637.7137.7637.2637.26
ดีเซล B729.3929.3929.3929.3929.3929.3929.3929.3929.3929.39
ดีเซล26.3926.3926.3926.3926.3926.3926.3926.3926.3926.39
ดีเซล B2026.1426.1426.3426.1426.1426.1426.14
ดีเซลพรีเมี่ยม34.1634.1635.8435.5634.16
แก๊ส NGV14.5514.5514.55
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า