สาระน่ารู้ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2564

ALLY REIT โชว์รายได้ฟื้น 75% ปรับกลยุทธ์ รับ “เปิดเมือง”

ALLY REIT โชว์รายได้ฟื้น 75%  ปรับกลยุทธ์ รับ  “เปิดเมือง”

กองทรัสต์อสังหาฯ อัลไล ของ กลุ่ม เค.อี กรุ๊ป เจ้าของพื้นที่ดัง ซีดีซี คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 64 รายได้โตขึ้น 75% ที่ 297 ล้านบาท รุกเติมพอร์ตลงทุน ขณะ กวินทร์ มองไปข้างหน้า เตรียมกลยุทธ์ต้อนรับเทรนด์ “เปิดเมือง”

นายกวินทร์  เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.รีท แมเนจเมนท์ จำกัด (ในเครือ เคอี กรุ๊ป)  ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์อัลไล (ALLY) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 นับเป็นไตรมาสที่แสดงถึงความแข็งแรงของกองทรัสต์ฯ  ท่ามกลางผลกระทบต่อเนื่องจากมาตรการภาครัฐที่เข้มขึ้นกว่าไตรมาสก่อนในการควบคุมการระบาดของ COVID-19 ซึ่งกระทบต่อหลายธุรกิจมากและยาวนานขึ้น ส่งผลให้ผู้เช่าพื้นที่ของกองทรัสต์ฯ เปิดทำการได้ประมาณ 72% ของพื้นที่ทั้งหมด

แต่อย่างไรก็ตามอัตราการเข้ามาที่ศูนย์การค้าฯ ของลูกค้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 104% ของอัตราการเข้ามาในช่วงเวลาปกติก่อนการระบาดของ COVID-19 เนื่องจากศูนย์การค้าของกองทรัสต์ฯ เป็นศูนย์การค้าในรูปแบบเปิด ตั้งอยู่ในชุมชนที่อยู่อาศัย มีหลากหลายประเภท และครอบคลุมทุกลุ่มทุกธุรกิจ

สำหรับผลการดำเนินการในอัตราการเช่าพื้น (Occupancy) ไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เพิ่มขึ้น 2.8% มาอยู่ที่ 93.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2563 และอัตราค่าเช่าและบริการ (Rental Rate) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.4% จากไตรมาสก่อน โดยเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้เช่าพื้นที่ กองทรัสต์ฯ ให้ส่วนลดค่าเช่าและบริการประมาณ 20% โดยเฉลี่ย ทำให้ค่าเช่าและบริการเฉลี่ยสุทธิอยู่ที่ 419 บาทต่อตรม.ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564

“โดยรวมแล้วผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 อยู่ระดับที่ดีน่าพอใจ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เราได้มีการปรับใช้กลยุทธ์หลักเพื่อรักษาผู้เช่า (Synergy Made Growth) ในระหว่างปี ทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่รุนแรงมากนัก และช่วยให้เราสามารถหาผู้เช่ารายใหม่ ๆ ได้เร็ว” นายกวินทร์ กล่าว

สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ได้มีแผนการปรับกลยุทธ์ในหลาย ๆ ด้าน  เช่น การร่วมมือกับ Delivery Platform เพื่อเพิ่มรายได้จากช่องทางเสริม การลดค่าใช้จ่ายผ่านการบริหารแบบรวมศูนย์ได้ และการลงทุนปรับปรุง (Renovate) ศูนย์การค้า เพลินนารี่ และ แอม พาร์ค ด้วยงบลงทุนกว่า 15 ล้านบาท โดยคาดว่าจะปรับปรุงเสร็จช่วงปลาย Q3 พร้อมต้อนรับลูกค้าหลังการเปิดเมือง
 

นายกวินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรามีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องโดยมองภาพใหญ่ในระยะกลางถึงระยะยาว ทำให้เราเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเมืองอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการหาผู้เช่าใหม่ในธุรกิจที่จะได้รับผลบวกจากการเปิดเมือง เช่น ร้านอาหาร คลินิก หรือโรงเรียน ก็ตาม จึงมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังแม้จะมีปัจจัยเสี่ยง แต่ด้วยฐานผู้เช่าที่แข็งแรงและการปรับตัวที่รวดเร็ว น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผลการดำเนินเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”

ปัจจุบันทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล (กองทรัสต์ฯ) บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ประเภทศูนย์การค้าทั้งหมด 11 แห่งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเชียงใหม่ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 146,889 ตรม. และมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่ประมาณกว่า 12,700 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค้นหาบ้านยุคใหม่ เทรนด์รักษ์โลก มาแรง โซลาร์ – รถ EV จุดเปลี่ยน

ค้นหาบ้านยุคใหม่  เทรนด์รักษ์โลก มาแรง  โซลาร์ - รถ EV จุดเปลี่ยน

ค้นหาบ้านยุคใหม่ เทรนด์ “สุขภาพ-รักษ์โลก” มาแรง ผลสำรวจดีดีพร็อพเพอร์ตี้เผย กว่า 9 ใน 10 สนใจการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ชี้ มากกว่าครึ่ง ต้องการบ้าน/คอนโดฯ มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ ขณะ 2ใน3 ระบุ การมาของรถยนต์ไฟฟ้า EV มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลักดันให้ทุกชีวิตบนโลกใบนี้ต้องเปลี่ยนรูปแบบวิถีชีวิตใหม่เพื่อรับมือและหาวิธีอยู่ร่วมกับสถานการณ์นี้ให้ได้ โดยเรื่องสุขภาพกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทุกคนหันมาตระหนักถึงความสำคัญมากขึ้น รวมทั้งใส่ใจดูแลเรื่องอื่น ๆ อย่างรอบด้านในทุกมิติ ครอบคลุมไปถึงการพิจารณาคุณภาพของปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่มีบทบาทในการใช้ชีวิต รวมไปถึงการเลือกที่อยู่อาศัย จากที่เคยมีบทบาทเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต ตอนนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ส่วนรวมของคนในครอบครัวที่เป็นมากกว่าเพียงแค่การพักผ่อน ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มมองหาความยั่งยืนที่จะเข้ามายกระดับที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ

ค้นหาบ้านยุคใหม่  เทรนด์รักษ์โลก มาแรง  โซลาร์ - รถ EV จุดเปลี่ยน

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า “วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบในด้านการเติบโตของเศรษฐกิจและธุรกิจเพียงอย่างเดียว ในมุมผู้บริโภคถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตไปอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการเดินทาง การกิน การอยู่ การใช้จ่าย การทำงาน การเรียน หรือการพบแพทย์ ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายจากการที่ยังไม่สามารถคาดเดาตอนจบในอนาคตได้ ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไปพร้อม ๆ กับเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ส่งสัญญาณให้เห็นชัดขึ้นจากสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ทั่วโลก

ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยก็มีทิศทางการเติบโตในเทรนด์นี้เช่นกัน ผลสำรวจ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดเผยว่า ผู้บริโภคกว่า 9 ใน 10 (93%) ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ที่จะช่วยผสมผสานไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเข้ากับบ้านที่เป็นสถานที่พักผ่อนได้อย่างลงตัว ที่อยู่อาศัยในอุดมคติจึงต้องมาพร้อมกับการออกแบบภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืนในการอยู่อาศัยในระยะยาว

ค้นหาบ้านยุคใหม่  เทรนด์รักษ์โลก มาแรง  โซลาร์ - รถ EV จุดเปลี่ยน

ผู้พัฒนาอสังหาฯ จึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบฟังก์ชั่นที่อยู่อาศัยทั้งในส่วนพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางภายใต้แนวคิดการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างจุดต่างในการดึงดูดผู้บริโภคมากกว่าการแข่งขันสงครามราคาที่อาจจะดูฉาบฉวยในสายตาผู้ซื้อตอนนี้”

“ความยั่งยืน” คำตอบของคนหาบ้านยุคใหม่

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด อัปเดตเทรนด์ที่อยู่อาศัยในอุดมคติของผู้บริโภคในยุค Next Normal เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตอย่างราบรื่นและยั่งยืนในระยะยาว

เทรนด์รักษ์โลกส่งเสริมการใช้ชีวิตประหยัดพลังงาน การ Work from Home ทำให้บ้านกลายมาเป็นสถานที่ทำงาน/เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่พื้นที่ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นและกลายเป็นค่าไฟที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานภายใต้แนวคิดรักษ์โลกที่ช่วยประหยัดการใช้พลังงาน

โครงการบ้านที่มีหลังคาโซล่าเซลล์

โดยมากกว่าครึ่ง (62%) ต้องการบ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) เพื่อสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับบ้าน/คอนโดฯ ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อน (58%) และฟังก์ชั่นดูดซับมลพิษภายในบ้าน (48%) เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตภายในบ้านมีความสะดวกสบายและมั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อต้องรับมือปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่เรื่อย ๆ
 

นวัตกรรมมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ การที่ผู้บริโภคหันมาตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่ชัดเจนที่สุดหลังเผชิญวิกฤติการแพร่ระบาดฯ ทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรรมมาช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพให้ง่ายขึ้นแม้ในช่วงที่ยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ผ่านบริการดูแลสุขภาพแบบออนไลน์ รวมไปถึงการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ที่ช่วยให้เข้าถึงการตรวจรักษาและรับการวินิจฉัยจากแพทย์ได้โดยตรง ในตลาดที่อยู่อาศัย 

ค้นหาบ้านยุคใหม่  เทรนด์รักษ์โลก มาแรง  โซลาร์ - รถ EV จุดเปลี่ยน

มากกว่าครึ่งนึงของผู้บริโภค (60%) มองว่า บ้าน/คอนโดฯ ที่ถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นและสะท้อนความร้อนภายนอก บ้านที่มีระบบสร้างอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่น PM 2.5 หรือบ้านปลอดไวรัส ก็ล้วนมีผลต่อการเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยไม่น้อย

พื้นที่ใช้สอยต้องพร้อมรองรับ Work from Home ระยะยาว แม้การทำงานที่บ้านจะไม่ใช่เรื่องใหม่และอาจกลายเป็นวิถีชีวิตที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแม้การแพร่ระบาดฯ จะหมดไป แต่การลงทุนสร้างห้องทำงานไว้ที่บ้านอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นของทุกคน ดังนั้น พื้นที่ใช้สอยในบ้าน/คอนโดฯ จึงต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับการ Work from Home และอำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานออนไลน์ได้อย่างราบรื่นเช่นกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในเรื่องการจัดแต่งสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการทำงาน ซึ่งจะส่งผลดีและช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นไปที่สภาพแวดล้อมที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก (65%)

ตามมาด้วยการมีระบบถ่ายเทความร้อนและประหยัดพลังงานภายในห้อง (49%) และมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับการทำงานที่ลื่นไหล (48%) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้จำกัดเพียงการทำงานที่บ้านเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกให้คนในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้า พลิกโฉมการเดินทางยุคใหม่ 

การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวและหันมาพิจารณาข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยลดการเกิดมลพิษแล้ว ยังประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาป ข้อมูลจากศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS เผยว่า ยอดใช้ยานยนต์ไฟฟ้าสะสมในไทยมีโอกาสแตะ 1 ล้านคันได้ในปี 2028 หรือขยายตัวเฉลี่ยปีละ 23.7% จากแรงผลักดันของยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริดเป็นสำคัญ

นอกจากนั้น รถยนต์ไฟฟ้ายังถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจก่อนเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยอีกด้วย จากผลสำรวจ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study เผยว่า ผู้บริโภคเกือบ 2 ใน 3 (64%) มองว่า การมาของรถยนต์ไฟฟ้ามีอิทธิพลในการเปลี่ยนแผนการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในอนาคต โดยผู้บริโภคจะให้ความสนใจพิจารณาบ้าน/คอนโดฯ ที่รองรับการติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือมีสถานีชาร์จให้บริการในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อรองรับการวางแผนเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
 

แม้ผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจจะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว ๆ นี้ แต่ความท้าทายจากการใช้ชีวิตในสถานการณ์ปัจจุบันได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้ผู้บริโภคเกิดการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้รวดเร็วขึ้น การก้าวข้ามไปสู่ประสบการณ์ใหม่หลังรับมือวิกฤติในครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบที่ทำให้ผู้บริโภคได้มองย้อนกลับไปทบทวนความต้องการและเป้าหมายในการใช้ชีวิต มองเห็นความสำคัญของการดำเนินชีวิตที่เชื่อมโยงเข้ากับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การให้ความสำคัญกับแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียวและความยั่งยืนในการใช้ชีวิตจึงถือเป็นเทรนด์ที่ภาคธุรกิจไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตาม แม้การแพร่ระบาดฯ จะหมดไปในอนาคต แต่ความสำคัญด้านสุขภาพและความยั่งยืนในการดำเนินชีวิตจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคยังคงมองหาจากผู้ประกอบการ และช่วยกระตุ้นให้ทุกคนหันมาตระหนักถึงบทบาทที่ควรรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คลายกังวลโควิด! บาทเปิด 32.95/97 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า

คลายกังวลโควิด! บาทเปิด 32.95/97 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า

เงินบาทเปิดตลาด 32.95/97 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากคลายกังวลโควิดในประเทศ คาดกรอบวันนี้ 32.90-33.05 บาทต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.95/97 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 64 ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.97 บาท/ดอลลาร์

ช่วงนี้แนวโน้มเงินบาทกลับมาแข็งค่าต่ำกว่ากว่าระดับ 33 บาท จากปัจจัยในประเทศเป็นสำคัญ คือยอดผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นต่ำ กว่าระดับ 2 หมื่นคน/วันต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนั้น ตลาดยังรอดูผลการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในช่วงปลายสัปดาห์นี้

“ตอนนี้บาทกลับมาแข็งค่า เป็นผลจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก คือยอดผู้ติดเชื้อโควิดช่วงนี้ต่ำกว่าวันละ 2 หมื่นคน ติดต่อกันมา 4-5 วันแล้ว นอกนั้นก็ไม่ได้มีปัจจัยอะไรมาก ยังต้องรอดูผลประชุมเฟดที่แจ็กสัน โฮล ปลายสัปดาห์นี้” นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90 – 33.05 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


โรคปอดอักเสบ ภัยเงียบที่หลีกเลี่ยงได้

โรคปอดอักเสบ ภัยเงียบที่หลีกเลี่ยงได้

รู้หรือไม่ โรคปอดอักเสบเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่โรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อนั้นมีความอันตรายต่อเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำ เนื่องจากบางครั้งหากติดเชื้ออาจรุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

ในช่วงเริ่มเข้าสู่ปลายปีที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเช่นนี้ หลายต่อหลายครั้งที่เราเคยได้ยินว่าผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มักมีอาการปอดบวมแทรกซ้อนตามมา ทำให้แทนที่จะหายจากโรคหวัดกลับต้องรักษาตัวจากปอดบวมต่อเนื่องไปอีกพักใหญ่ ในกรณีนี้หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วปอดบวมนั้นแท้จริงเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าเป็นแล้วจะอันตรายหรือไม่ และใครบ้างที่เสี่ยงต่อปอดบวม

ข้อมูลโดย นายแพทย์เดช จงนรังสิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่า จริง ๆ แล้วอาการอักเสบของเนื้อปอดที่เรียกว่าปอดบวมหรือโรคปอดอักเสบ (pneumonitis) นั้น เกิดได้จาก 2 สาเหตุ คือ จากการติดเชื้อหรือที่เรียกว่า pneumonia ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา จนทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ และปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น การหายใจเอาฝุ่น ควัน หรือสารเคมีที่ระเหยได้ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบหายใจ ก็อาจทำให้เกิดภาวะปอดบวมได้เช่นเดียวกัน โดยทั่วไปโรคปอดอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัยแต่โรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อนั้นมีความอันตรายต่อเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำ เนื่องจากบางครั้งหากติดเชื้ออาจรุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

ทีนี้มาดูกันว่าปัจจัยเสี่ยงของโรคปอดอักเสบนั้นสามารถเกิดขึ้นกับใครได้บ้างตามสถิติแล้วโรคปอดอักเสบสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัยแต่ในกรณีของปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อมักพบบ่อยในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบและผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะในแผนกผู้ป่วยหนัก (ICU) ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหัวใจ รวมถึงผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV, ผู้ป่วยโรคเอดส์, ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะผู้ป่วยมะเร็งระหว่างการให้เคมีบำบัด หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน ส่วนผู้ที่สูบบุหรี่ก็ถือว่าเป็นคนที่มีความเสี่ยงเช่นกัน

สาเหตุต่าง ๆ ของการติดเชื้อเกิดขึ้นได้ทั้งจากการไอ จาม หรือหายใจรดกัน ซึ่งเป็นการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอากาศในรูปละอองฝอยขนาดเล็กเข้าสู่ปอดโดยตรง ตลอดจนการสำลักเชื้อที่สะสมอยู่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบนลงสู่ปอด เช่น สำลักน้ำลาย อาหาร หรือสารคัดหลั่งในทางเดินอาหาร นอกจากนี้หากผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อที่อวัยวะส่วนอื่นมาก่อนอาจเกิดภาวะการแพร่กระจายของเชื้อตามกระแสโลหิตจนลุกลามไปสู่ปอดและอวัยวะข้างเคียงได้

ข้อสังเกตง่าย ๆ สำหรับผู้ที่มีอาการของปอดติดเชื้อคือไอมีเสมหะ เจ็บหน้าอกขณะหายใจหรือไอ หายใจเร็ว หายใจหอบ หายใจลำบาก มีไข้ เหงื่อออก หนาวสั่นคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียอ่อนเพลียหากเกิดในผู้สูงอายุอาจมีอาการซึม ความรู้สึกสับสน อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ส่วนเด็กเล็กอาจมีอาการท้องอืด อาเจียน ซึม ไม่ดูดนมหรือน้ำซึ่งระดับความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ อายุและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม หากสำรวจดูแล้วว่าสิ่งที่เป็นมีอาการเบื้องต้นของปอดอักเสบควรไปพบแพทย์ทันทีเบื้องต้นแพทย์จะวินิจฉัยโรคปอดอักเสบโดยใช้การซักประวัติร่วมกับการตรวจร่างกาย เช่น ฟังเสียงปอด และเอกซเรย์ปอด นอกจากนี้ ยังมีการตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคและแยกเชื้อที่เป็นสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจนับเม็ดเลือดขาวในเลือด เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ขั้นต่อมาคือการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด เพื่อดูประสิทธิภาพของปอดในการลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดว่าลดลงหรือไม่และสุดท้ายคือการตรวจและเพาะเชื้อจากเสมหะและเลือด เพื่อหาชนิดของเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคจากนั้นจึงจะรักษาการติดเชื้อร่วมกับการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นควบคู่กันไป

ดังที่กล่าวตั้งแต่แรกว่าโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้ออาจนั้นอาจมีความรุนแรงจนนำไปสู่การเสียชีวิตได้การป้องกันโรคจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในปัจจุบันกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็กเล็กผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำหรือมีโรคประจำตัวบางอย่างสามารถฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Flu vaccine) และวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal vaccine) สำหรับป้องกันการติดเชื้อ Streptococcus pneumonia หรือที่เรียกกันว่าเชื้อนิวโมคอคคัส เพื่อลดอัตราการเกิดโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อได้เช่นกัน

สุดท้ายนี้ เรามีข้อแนะนำการปฏิบัติตัวง่าย ๆ เพื่ออยู่ให้ห่างไกลจากการเกิดโรคปอดอักเสบเริ่มจากการไม่สูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่จะไปทำลายกระบวนการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจตามธรรมชาติของปอดข้อถัดมาต้องดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เช่น หมั่นล้างมือเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่นหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรืออากาศที่หนาวเย็นเมื่อเป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรักษาให้หายขาดแต่เนิ่น ๆ นอกจากนี้ ยังควรสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


“สายสุนีย์” ประเดิมสวย ทิ่มสาวสหรัฐฯ วีลแชร์ฟันดาบ

"สายสุนีย์" ประเดิมสวย ทิ่มสาวสหรัฐฯ วีลแชร์ฟันดาบ

สายสุนีย์ จ๊ะนะ ยอดนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบของไทย ประเดิม พาราลิมปิก เกมส์ 2020 ได้อย่างสวยงาม หลังเก็บชัยนัดแรกในประเภทเซเบอร์ บุคคลหญิง คลาสบี

ทั้งนี้ สายสุนีย์ เจ้าของ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง จากการลงแข่ง 4 สมัย ได้แข่งประเภทเซเบอร์ในพาราลิมปิกเป็นหนแรก เนื่องจากเพิ่งมีบรรจุในการแข่งขัน โดยเป็นมือวางอันดับ 4 ของรายการ เอาชนะ เทอร์รี่ เฮย์ส มือวางอันดับ 22 จากสหรัฐฯ วัย 63 ปี ขาดลอย 5-0 คะแนน เก็บชัยนัดแรกได้สำเร็จ

สำหรับ สายสุนีย์ มีโปรแกรมลงแข่งต่อเนื่องอีก 4 แมตช์รอบแบ่งกลุ่มในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อทำคะแนนลุ้นไปแข่งรอบ 16 คนสุดท้ายในเวลา 10.30 น.

————————————–
ติดตามการถ่ายทอดสดพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม – 5 กันยายน 2564 ได้ที่ T Sports 7 บนฟรีทีวีดีจิตัล, ช่อง T Sports Channel ทีวีดาวเทียม เลข 91 และแอปพลิเคชั่น AIS PLAY

พร้อมรับชมไฮไลท์การแข่งขันแบบจุใจได้ทุกวันทาง T Sports 7, PPTVHD 36 และ YouTube StadiumTH อย่าลืมกด subscribers กันไว้เลยเพื่อไม่พลาดทุกความสนุกของพาราลิมปิกเกมส์

ขอบบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คำศัพท์เกี่ยวกับการแปลงานด้านบริหารธุรกิจ

คำศัพท์เกี่ยวกับการแปลงานด้านบริหารธุรกิจ #1

เพิ่มความถูกต้องและรวดเร็วในการแปลงานด้านบริหารธุรกิจด้วย คำศัพท์เกี่ยวกับการแปลงานด้านบริหารธุรกิจ ที่จะช่วยให้นักแปล และผู้ที่สนใจในการแปลด้านบริหารธุรกิจได้ใช้คำศัพท์อย่างถูกต้อง 

เพราะคำศัพท์ด้านบริหารธุรกิจเป็นคำศัพท์เฉพาะทาง หากใครที่ไม่ได้จบทางด้านนี้โดยตรง ก็อาจจะใช้คำศัพท์ในการแปลหรือใช้ในการสื่อสารที่ไม่ถูกต้อง ที่สำคัญอาจจะทำให้งานแปลผิดเพี้ยนได้ 

คำศัพท์ด้านบริหารธุรกิจ สำคัญอย่างไร ?
– ช่วยให้งานแปลถูกต้องมากยิ่งขึ้น
– ทำให้แปลงานได้อย่างรวดเร็ว
– ทำให้ใช้คำศัพท์บริการธุรกิจในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับบริบท
– ทำให้งานแปลดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

แต่ถ้าเอกสารนั้น เป็นเอกกสารที่สำคัญและต้องใช้กับบริษัทหรือหน่วยงานใหญ่ๆ แนะนำให้สั่งงานแปลกับนักแปลที่มีความเชียวชาญด้านการบริหารธุรกิจ หรือสั่งงานแปลกับ บริษัท ภาวาโน่ ซอฟต์แวร์ โซลูชั่น จำกัด (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริการรับแปลงานด้านบริหารธุรกิจ )เพราะทางบริษัทจะรวบรวมนักแปลเฉพาะทางไว้ ไม่ว่าจะเป็นนักแปลด้านบริหารธุรกิจ เพื่อให้งานแปลมีความผิดพลาดน้อยที่สุด และเพื่อเพิ่มความถูกต้องของงานแปล จะทำให้การติดต่อสื่อสารนั้นผ่านไปด้วยดี  

ภาษาอังกฤษคำอ่านภาษาไทย
profitโปรฟิตกำไร
quarterควาเตอร์ไตรมาส / 1 ใน 4 ส่วน
liabilityไลอาบิลิตี้หนี้สิน
venture capitalเวนเจอร์ เเคปปีต้อลเงินร่วมลงทุน
investmentอินเวสเมนต์เงินลงทุน การลงทุน
creditเครดิตสินเชื่อ 
opportunity costออปพอจูนนี้ตี้คอสต้นทุนการเสียโอกาส
interestอินเทอร์เลสดอกเบี้ย
loanโลนเงินกู้
capitalเเคปปิตอลทุน, เงินทุน
budgetบัดเจตงบประมาณ
revenueเรฝเอ็นยูรายได้
grantกรานทเงินสนับสนุน
marginมาจินกำไรขั้นต้น
income statementอีนคัม ซเทท เม็นทงบกำไร/ขาดทุน
balance sheetแบล เลินซ ชีทงบดุล
cash flow statementแคชโฟล ซเทท เม็นทงบกระแสเงินสด
transactionแทรนแซคเชินธุรกรรม
strategyสแทรททิจีกลยุทธ์
businessบิสสิเนสธุรกิจ
marketingมาร์เกตติ้งการทำตลาด
market มาร์เกตตลาด
bonusโบนัสโบนัส
sales departmentเซล ดีพาตเมนต์เเผนกขาย
entrepreneur เอน เทร พรี นิวผู้ประกอบการ
shareholderเเชโฮลเดอร์ผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน
inventoryอินเวนทอรี่สินค้าคงเหลือ
accountingเเอคเคาน์ติ้งการบัญชี การทำบัญชี
networkingเนตเวิคกิ้งเครือข่าย
managerเเมเนจเจอร์ผู้จัดการ
managementเเมเนจเม้นคณะผู้บริหาร
downsizingเดาน์ไซ่ซิ่งการลดขนาดองค์การ
outsourcingเอาท์ซอสซิ่งการจัดจ้างคนภายนอก
headquatersเฮดควาเตอร์สำนักงานใหญ่
personnelเพอร์สันเนลบุคลากร
promotionโปรโมชั่นการเลื่อนตำแหน่ง
recruitmentรีครูตเมนต์การสรรหาคนใหม่
presentationพรีเซนท์เทชั่นการนำเสนอ
meetingมีตติ้งการประชุม
deadlineเดดไลน์กำหนดส่ง
partyปาร์ตี้คณะ กลุ่มคน
objectiveออปเจ็คทีปวัตถุประสงค์
agreementอะกรีเมนต์ข้อตกลง
interestsอินเทอร์เลสดอกเบี้ย
customer service departmentคาสตูมเมอร์ เซอร์วิส ดีพาร์ตเมนต์เเผนกลูกค้าบริการ
board of directorบอร์ดออฟไดเรคเตอร์คณะกรรมการบริษัท
staffสตาฟเจ้าหน้าที่
human resourcesฮิวเเมน รีซอสฝ่ายบุคคล
achieveอะชีฟวสำเร็จ
achievementอะชีฟว เมินทความสำเร็จ
advantageแอดวาน ทิจข้อได้เปรียบ
advertisingแอด เวอไทซิงการโฆษณา
annualแอน นวลรายปี
appraisal อะเพร เซิลการประเมิน
approachอะโพรชแนวทาง
auctionออคเชินการประมูล
chief executive officerชีฟ เอคเซค คิวทิฟว ออฟฟิสเซอะผู้บริหารสูงสุด
collateralคะแลท เทอรัลหลักทรัพย์ค้ำประกัน
competitorคัมเพททิเทอะคู่แข่ง
commercialคะเมอเชิลเกี่ยวกับการค้า
confidentialคอนฟิเดนเชิลเป็นความลับ
cooperativeโคออพเพอเรทิฟวความร่วมมือ
economyอีคอนนะมีเศรษฐกิจ
effectiveอินอิเฟคทิฟวมีประสิทธิผล
efficientอิฟิชเชินทมีประสิทธิภาพ
exportเอคซพอร์ทส่งออก
factoryแฟคทะรีโรงงาน
feesฟีค่าธรรมเนียม
goalโกลเป้าหมาย
growthโกรธการเจริญเติบโต
importอิม พอร์ทนำเข้า
investอินเวสทลงทุน
investmentอินเวสท เมินทการลงทุน
market priceมาร์ค คิท ไพรซราคาตลาด
seminarเซมมะนาร์การสัมมนา
taxแทคภาษี
trademarkเทรดมาร์คเครื่องหมายการค้า
visionวิชเชนวิสัยทัศน์
warehouseแวร์เฮาซคลังเก็บสินค้า

เบนซ์ มั่นใจครึ่งปีหลังทวงแชมป์รถหรู BMW เปิดตัว Maybach GLS – EQS – S Class PHEV

เบนซ์ มั่นใจครึ่งปีหลังทวงแชมป์รถหรู BMW เปิดตัว Maybach GLS  - EQS - S Class PHEV

เมอร์เซเดส-เบนซ์ มั่นใจปีนี้กลับมาทวงแชมป์ตลาดรถหรูเมืองไทยจาก BMW เผยแผนเปิดตัวรถใหม่(อย่างน้อย) 3 รุ่นในครึ่งปีหลัง 2564 นำโดยเอสยูวีรุ่นใหญ่สุดหรู Mercedes Maybach และรถพลังงานไฟฟ้า 100% EQS รวมถึง S-Class รุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยืนยันแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 นำโดย เปิดตัว Mercedes-Maybach GLS ที่นำเข้ามาจากโรงงานประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงรถพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น EQS เปิดตัวปลายปี 2564 แต่ขายจริงต้นปี 2565 รวมถึง Mercedes Benz S-Class W223 เพิ่มรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด ประกอบในประเทศ หลังจากประเดิมแล้วกับรุ่นดีเซล 350d

นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเริ่มต้นด้วยการแนะนำ 2 รถยนต์ลักชัวรีรุ่นใหม่ ได้แก่ Mercedes-Maybach GLS  และ The new EQS รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกที่ผลิตในประเทศไทยโดยพัฒนาขึ้นมาจากแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้น 

Mercedes-Maybach GLS

นอกจากนี้ ยังเตรียมผลิตและจำหน่ายรถยนต์รุ่น S-Class ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในเวอร์ชัน PHEV ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน The IAA MOBILITY 2021 ในวันที่ 5 กันยายนนี้  ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์จะ อัปเดตอีกครั้งว่ารถยนต์แต่ละรุ่นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในช่วงเวลาใด

“เพื่อรองรับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เป็น sub-brand ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้ง Mercedes-EQ และ Mercedes-Maybach ล่าสุดได้แต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Maybach อย่างเป็นทางการแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ เบนซ์ ทีทีซี, เบนซ์ สตาร์แฟลก,เบนซ์ ไพรมัส และ เบนซ์ บีเคเค” นายโฟล์เกอร์ กล่าว

ด้านนายบีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ด้วยแผนธุรกิจต่างๆ และการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในครึ่งปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเป็นผู้นำในเซกเมนต์ลักชัวรี ของไทยในปีนี้แน่นอน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังจัดแคมเปญ StarFest 2021: Season of the ultimate offers ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ทั้งรถในกลุ่ม Compact car, Contemporary Luxury, Dream Cars รวมถึงแบรนด์รถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” ให้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 กันยายนนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ปฏิวัติวงการเครื่องสุขภัณฑ์ไปกับ “MOGEN” จากวัสดุเมลามีนที่ใช้ผลิตจานชามสู่ชุดสุขภัณฑ์ พร้อมดีไซน์ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า 3 GEN ในงานACT FORUM ’20 Design + Built

เรื่อง    ขอเชิญร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าสุขภัณฑ์จากเมลามีน

เรียน    สื่อมวลชนทุกท่าน

บริษัท โมเก้น (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสุขภัณฑ์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งเน้นตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ทันสมัยใส่ใจทุกรายละเอียด ร่วมมือกับ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตภาชนะเครื่องใช้เมลามีนรายใหญ่ที่สุดของโลก พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าสุขภัณฑ์ที่ทำจาก  เมลามีนครั้งแรกของประเทศไทย ในงานสภาสถาปนิก ACT FORUM’ 20 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13:00-14:00 (MOGEN Booth No.: F503) เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์นวัตกรรมสินค้าดังกล่าวแก่ สถาปนิก เจ้าของ/ผู้บริหารโครงการ และประชาชนผู้สนใจทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ของงานดังนี้

  1. นำเสนอนวัตกรรมการคิดค้นพัฒนาเมลามีน ที่คล้ายคลึงกับวัสดุธรรมชาติ เช่น งานแกรนิต งานหินอ่อน งานซีเมนต์ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์เมลามีนไปยังกลุ่มประเภทสินค้าอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากภาชนะจาน ชาม โดยเน้นรูปลักษณ์การออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติสุขภัณฑ์ ประเภทอ่างล้างหน้า ที่นำเมลามีนมาใช้เป็นวัสดุทางเลือกใหม่ ที่มีจุดเด่นเรื่องความแข็งแรง ทนทานต่อการกระเทาะ แตก บิ่น ที่เป็นจุดด้อยของสินค้าประเภทเซรามิคในปัจจุบัน
  2. นวัตกรรมสุขภัณฑ์ ใน concept ผลิตภัณฑ์ประเภท Eco-friendly ที่สามารถเลียนแบบสีของกะลามะพร้าว โดยนำเศษวัสดุธรรมชาติที่เหลือใช้จากการเกษตรของเมืองไทยเรา มาผสมผสานในเนื้อวัสดุ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุเมลามีนที่เกิดจากการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยนำมาบดและผสมจนเกิดรูปลักษณ์ใหม่ หรือที่เรียกว่า ‘Upcycling’ ถือเป็นการนำ concept ‘Upcycling’ เข้ามาในสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง Construction material ซึ่งสามารถนำไปขยายต่อยอดอีกหลากหลายสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้างได้อีกด้วย

จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าวในวันและเวลาดังกล่าว โดยมีกำหนดการตามเอกสารแนบ และใคร่ขอขอบพระคุณอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้

กำหนดการแถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าสุขภัณฑ์โมเก้นปฏิวัติวงการสุขภัณฑ์

MOGEN x SRITHAI

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563

ณ Booth MOGEN No. F503 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

……………………………………………………………………………………………………………………….

12:45 น.       สื่อมวลชนลงทะเบียน และรับประทานอาหารว่าง

13:00 น.       พิธีกรกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน

13:05 น.       พิธีกรเรียนเชิญคุณพงษ์ธร วานิชพงษ์พันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเก้น (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว Opening speech

13:15 น.         พิธีกรเรียนเชิญดร. การัณย์ อังอุบลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ โคราช จำกัด  กล่าวถึงความร่วมมือ และวัตถุประสงค์ของการเปิดตัว

13.25 น.        เรียนเชิญผู้บริหารทั้งสององค์กร กล่าวแสดงความยินดี

1.คุณสมิตร โอบายะวาทย์ อดีตนายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ ปี 2555-2557

2.คุณอธิป พีชานนท์ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

– เรียนเชิญ คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน

13.40 น.        พิธีกรกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน พร้อมกล่าวปิดงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 25/08/2564

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a27,950.0028,050.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,810.0027,439.6028,550.00
ทองรูปพรรณ 90%1,629.0024,695.64n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,448.0021,951.68n/a
ทองรูปพรรณ 50%815.0012,355.40n/a
ทองรูปพรรณ 40%634.009,611.44n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,876.0028,440.16n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 25/08/2564



ปตท.
ราคาน้ำมัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9528.7528.7529.2528.7528.7528.7528.7528.7528.7528.75
แก๊สโซฮอล์ 9128.4828.4828.9828.4828.4828.4828.4828.4828.4828.48
แก๊สโซฮอล์ E2027.2427.2427.7427.2427.2427.2427.2427.2427.24
แก๊สโซฮอล์ E8522.1422.1422.14
เบนซิน 9536.1636.6136.6636.1636.16
ดีเซล B728.2928.2928.7928.2928.2928.2928.2928.2928.2928.29
ดีเซล25.2925.2925.7925.2925.2925.2925.2925.2925.2925.29
ดีเซล B2025.0425.0425.7425.0425.0425.0425.04
ดีเซลพรีเมี่ยม33.0633.0635.2434.4633.06
แก๊ส NGV15.4815.4815.48

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า