ประเดิม คลายล็อกดาวน์ เปิดตัว ALPHA ลุยพื้นที่ โรงงาน – คลังสินค้า ล้านตร.ม.
“ออริจิ้น” ผนึก “JWD” ผสานจุดแข็ง เปิดตัว ALPHA ธุรกิจโรงงาน – คลังสินค้าให้เช่า รับเมกะเทรนด์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดันนักขายหน้าใหม่ ส่งออกบูม กางแผน 5 ปี ปักธง กทม- อีอีซี – ภูมิภาค – ตปท. ขึ้นแท่น Top 3 ลุยขยายพื้นที่กว่า 1 ล้านตร.ม. นำร่อง ย่านบางนา โครงการแรก
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากศักยภาพและแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Property) บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ก่อตั้งบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด ในสัดส่วน 50 ต่อ 50 เพื่อผสานจุดแกร่งของทั้ง 2 บริษัทในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้แบรนด์ แอลฟา (ALPHA)
” เราเชี่ยวชาญด้านการหาที่ดิน การจัดการต้นทุนในการพัฒนาโครงการ มีพันธมิตรด้านอสังหาฯชั้นนำจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในฝั่ง B2C ขณะเดียวกัน เจดับเบิ้ลยูดี ก็เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารคลังสินค้า บริการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ มีเครือข่ายที่แข็งแรงอยู่ทั่วอาเซียน ตลอดจนมีฐานลูกค้าที่กว้างขวางโดยเฉพาะในฝั่ง B2B ความร่วมมือระหว่างเราและเจดับเบิ้ลยูดีในครั้งนี้ จึงถือเป็นการสร้าง Synergy ผสานความแข็งแกร่งของทั้งคู่เข้าด้วยกันในการตอบโจทย์ตลาดอย่างครบวงจรทั้งในฝั่ง B2B และ B2C เราเชื่อมั่นว่า ความแข็งแกร่งของทั้งคู่จะนำพา แอลฟา ให้สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปี 2568 และก้าวขึ้นเป็น Top 3 ของธุรกิจนี้ได้ภายใน 5 ปี “
‘ ธุรกิจ ALPHA มาจาก การเล็งเห็นโอกาสของการขยายตัวในกลุ่มธุรกิจ โลจิสติกส์ – คลังสินค้าอัจริยะ และธุรกิจอิคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง เปรียบเป็น New S-Curve ของไทย และของออริจิ้น ผ่านการจับมือ หนุนการเติบโตซึ่งกันและกัน กับ JWD วันนี้ บริษัท ALPHA เสมือนเป็นน้องใหม่ใน อินดัสเทรียล อีกแง่ ได้สะท้อนถึง การผันตัว – ทรานฟอร์มอย่างรวดเร็วของดีเวลลอปเปอร์ ที่ปรับไปสู่ภาคอุตสาหกรรมหลักของไทย ”
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD กล่าวเพิ่มเติมว่า แอลฟา จะมุ่งดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1.อสังหาริมทรัพย์ภาคอุตสาหกรรม (Industrial Property) อาทิ คลังสินค้า ศูนย์โลจิสติกส์ สวนอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ระบบการจัดการคลังสินค้าออนไลน์ (Order Fulfillment)
2.อสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนเมือง (Urbanized Property) อาทิ บริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สิน (Self-Storage) ในคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร บริการคลังสินค้าออนไลน์ย่อย (Micro-fulfillment Center)
3.การบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Services) อาทิ กลุ่มพลังงาน กลุ่มการบำบัดน้ำเสีย กลุ่มก่อสร้าง
” ความต้องการด้านโลจิสติกส์โซลูชั่นในประเทศไทยยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น เฉพาะทางมากขึ้น เราและออริจิ้นจึงจะบูรณาการ Total Solutions ที่แตกต่างจากตลาด เราไม่ได้แค่หาที่ดินมาพัฒนาคลังสินค้า แต่เราจะมีทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ ระบบออโตเมชั่น หุ่นยนต์ และบริการที่ซับซ้อนอื่นๆ พร้อมนำเสนอแก่ลูกค้าฝั่ง B2B ในหลากหลายประเภทธุรกิจ ขณะเดียวกัน เราก็สร้างประสบการณ์ หรือ Customer Experience ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคในโครงการที่อยู่อาศัย ให้สามารถทำธุรกิจ e-Commerce จากที่พักอาศัยได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจของเราจะตอบโจทย์ความต้องการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ได้อย่างครบวงจร ”
“JWD มีจุดแข็ง จากความชำนาญอยู่ในตลาดมา 42 ปี มีพื้นที่รวมกว่า 1 ล้าน ตร.ม. ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านพํนธมิตรทางธุรกิจในอาเซียนที่มีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมา เราใช้พื้นที่เองเป็นหลักราว 90% ขณะ 10% เป็นลูกค้าภายนอก ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สูญเสียโอกาส โดยเฉพาะ การขยายตัวอย่างรวดเร็วของกลุ่มอุตสาหกรรม การเกิดขึ้นของ ALPHA จะสนับสนุนให้เราเติบโตได้เร็วขึ้น “
ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2568 แอลฟา จะมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารมากกว่า 1 ล้าน ตร.ม. พร้อมทั้งมีมูลค่า REIT Value ในระดับ 12,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จะพิจารณานำสินทรัพย์ในกลุ่มต่างๆ เข้าจดทะเบียนเสนอขายแก่นักลงทุนในรูปแบบทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ด้วยภายในปี 2566
นายปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจอาหารในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ประกอบกับนโยบายการสนับสนุนต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นโยบายการส่งเสริมการผลิตรถ EV ตลอดจนความต้องการที่สูงขึ้นของกลุ่ม Urbanized Property ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงจะใช้จุดแตกต่างทั้งด้านความยืดหยุ่นและความสามารถนำเสนอ Logistics Solution ที่ซับซ้อน ทันสมัย และครบวงจรให้แก่ลูกค้า มาเจาะตลาดลูกค้าเป้าหมายหลัก 6 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มอีคอมเมิร์ซ
2.กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ห้องควบคุมอุณหภูมิ (Cold Storage) เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ยา และเวชภัณฑ์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
3.กลุ่มเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย
4.กลุ่มธุรกิจยานยนต์และ EV
5.กลุ่ม Urbanized property
6.กลุ่ม Data Center
สำหรับการเติบโตของแอลฟา ในช่วง 5 ปีนี้ จะเป็นการเติบโตด้วยตัวเอง (Organic Growth) ในสัดส่วน 60% ผ่านการพัฒนาพื้นที่บริหารประมาณ 120,000 ตร.ม.ต่อปี และการเติบโตทางลัด (Inorganic Growth) ในสัดส่วน 40% ผ่านการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใต้การบริหารอีกราว 80,000 ตร.ม.ต่อปี โดยมองทำเลการเติบโตในหลากหลายกลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มคลัสเตอร์ภาคอุตสาหกรรม อาทิ บางนา แหลมฉบัง ระยอง และวังน้อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่บริษัทจะมุ่งไปก่อนเป็นกลุ่มแรกในปีนี้
2.กลุ่มคลัสเตอร์ระดับภูมิภาค อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ
3.กลุ่มศูนย์กลางธุรกิจ (CBDs) ทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลักในจังหวัดต่างๆ 4.กลุ่มตลาดต่างประเทศ มุ่งเน้นประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา
“เราจะเริ่มบุกด้วยทำเลที่มีความต้องการสูงและออริจิ้นเชี่ยวชาญอยู่แล้วอย่างโซนบางนา-EEC ขณะเดียวกัน การจะขยายไปยังตลาดต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเจดับเบิ้ลยูดี มีการลงทุนและพันธมิตรทั้งในเวียดนามและอินโดนีเซียอยู่แล้ว เราจึงน่าจะสร้างทั้ง Organic Growth และ Inorganic Growth จนมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้ารวม 1 ล้าน ตร.ม.ได้ตามเป้า” นายปธาน กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มพัฒนาโครงการแรกภายใต้ชื่อ แอลฟา บางนา กม.22 (ALPHA Bangna KM.22) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 24 ไร่ บน ถนนบางนา ตราด กม.22 เป็นโครงการคลังควบคุมอุณหภูมิแบบ Multi-temperature ที่มีตัวอาคารสูงพิเศษกว่า 23 เมตร และเป็นโครงการแรกของไทยที่เป็นคลังสินค้าออนไลน์สำหรับธุรกิจ E-Commerce แบบควบคุมอุณหภูมิ (Temperature-Controlled Fulfillment Center) รองรับระบบการจัดเก็บอัตโนมัติ (ASRS) โดยมีขนาดพื้นที่กว่า 22,000 ตร.ม. สามารถตอบสนองการจัดการด้านโลจิสติกส์และมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในส่วนของระบบห้องเย็นและระบบออโตเมชั่น ทำให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงต่ำ ขณะเดียวกัน ก็ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง โดยเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายไตรมาส 2/2564 และเริ่มรับรู้รายได้ได้ในช่วงไตรมาส 1/2565
สำหรับโครงการ ที่ 2 จะตั้งอยู่บนพื้นที่ศักยภาพในการขนส่ง อย่าง บางนา-บางพลี ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ รวมพื้นที่บริการ ราว 7-8 หมื่น ตร.ม. ขณะนี้มีลูกค้าให้ความสนใจแล้ว ขณะอีก 1 โปรเจ็กต์ ตั้งอยู่บริเวณ โซนเหนือของ กทม. ย่านวังน้อย – อยุธยา ซึ่งมีศักยภาพสูงในการขนส่งเช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า 2-3 ราย รวมพื้นที่เช่า 6 หมื่น ตร.ม.
“อสังหาฯ เพื่ออุตสาหกรรม เป็นเซกเตอร์ ที่มีการขยายตัวสูงมาก สวนกระแสธุรกิจอื่นๆ ขณะเดียวกัน การค้าออนไลน์ – ขายส่ง -อิคอมเมริซ์ ทำให้ความต้องการด้านคลังสินค้า ถูกกระจายไปยังถูมิภาค เหนือ อีสาน มากขึ้น ส่วนอีอีซี ได้รับอานิสงค์ชัดเจน จากการลงทุนใหม่ๆ ด้านสาธารณูปโภค ท่าเรือ ,รถไฟความเร็วสูง ยิ่งสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการส่งออกของไทยมีการเติบโต เปิดทาง ความต้องการพื้นที่เช่ากลุ่มสินค้าขยายตัวตามไปด้วย”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สิงห์ หนุน พาราลิมปิก 2020 ลุยก่อสร้าง ศูนย์กีฬาบอคเซีย เพื่อทีมชาติไทย
สิงห์ เอสเตท ร่วมสนับสนุน สมาคมคนพิการทางสมอง ออกแบบก่อสร้างอาคารศูนย์กีฬาบอคเซียมาตราฐานสากล พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาพาราไทยในการแข่งขันพาราลิมปิก 2020 ครั้งที่ 16 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
สิงห์ เอสเตท สานต่อโครงการของบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้สนับสนุนหลักทุกสมาคมกีฬาคนพิการ ตั้งแต่ปี 2548 ร่วมสนับสนุนการการออกแบบและก่อสร้างโครงการศูนย์ฝึกกีฬาบอคเซียแห่งชาติของสมาคมกีฬาคนพิการทางสมอง ในพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ซึ่งศูนย์แห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมหลักของนักกีฬาคนพิการบอคเซียทีมชาติไทย การพัฒนานักกีฬาคนพิการ และยังเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ความรู้และเทคนิคการเล่นบอคเซียให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันประเทศไทยมีนักกีฬาบอคเซียครองแชมป์อันดับหนึ่งระดับโลกอยู่หลายรายการ
นอกจากนี้ ศูนย์ฝึกกีฬาบอคเซียแห่งนี้ ยังมีส่วนสนับสนุนและเตรียมความพร้อมให้ทัพนักกีฬาคนพิการของไทยที่กำลังจะเข้าร่วมแข่งขันพาราลิมปิก ครั้งที่ 16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน นี้อีกด้วย
นายสาทิต สืบสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายออกแบบและก่อสร้าง บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า การก่อสร้างศูนย์กีฬาบอคเซียแห่งนี้ ถือเป็นต้นแบบอาคารสาธารณะสำหรับคนพิการ ที่สิงห์ เอสเตท ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาและปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้มีทางสำหรับขึ้นลงสำหรับรถวีลแชร์ โดยมีทางลาดสำหรับการใช้งานได้ด้วยตนเองไม่ต้องมีคนช่วยเหลือ พื้นที่บริเวณห้องน้ำแบบไร้ระดับ ประตูมีขนาดกว้างเหมาะสมและมีราวจับพิเศษสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้ยังลิฟท์และทางหนีไฟเพื่อความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งมีสนามกีฬาสำหรับฝึกซ้อมที่มีมาตรฐานสากล
” จากการได้ร่วมพัฒนาศูนย์บอคเซียแห่งชาติในครั้งนี้ ทีมงานรู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนี่งในการให้กำลังใจ สนับสนุน และส่งเสริมการฝึกซ้อมของนักกีฬาพาราลิมปิกของไทย ที่จะไปเป็นตัวแทนประเทศในการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะพาราลิมปิก ครั้งที่ 16 นี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญทีมงานยังนำแนวคิดของการออกแบบมาต่อยอดการพัฒนาโครงการด้าน Universal Design ”
โดยหัวใจสำคัญคือ ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยมีความแตกต่างกันไป คำนึงถึงความเท่าเทียม และความยืดหยุ่นในการใช้งาน การออกแบบต้องรองรับความต้องการที่หลากหลายของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคนพิการ หรือผู้สูงอายุ ที่สำคัญคือการใช้งานง่าย คล่องตัว และมีความปลอดภัยต่างๆ เราได้นำประสบการณ์ในการออกแบบนี้มาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาทุกโครงการของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของ Wellness Society หรือที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ปิดลบ/น้ำมันบวก/ทองร่วง
หุ้นดาวโจนส์ปิดลบ 55.96 จุด ด้านราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ขณะที่ทองคำร่วง 7.30 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,399.84 จุด ลดลง 55.96 จุด หรือ -0.16% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,528.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.42 จุด หรือ +0.43% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 15,265.89 จุด เพิ่มขึ้น 136.39 จุด หรือ +0.90%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันที่ 30 ส.ค. โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี ดัชนี เอสแอนด์พี 500 และ แนสแดค ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ ปิดที่ 73.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดบวกเล็กน้อย หลังมีรายงานว่าพายุเฮอริเคนไอดาได้อ่อนกำลังลงแล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันพุธนี้
ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 7.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,812.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
โรคหายาก : อุบัติการณ์ของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในประเทศไทย
ความก้าวหน้าด้านการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคหายากที่หน่วยงานรัฐและเอกชนให้ความสำคัญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ ยิ่งผู้ป่วยได้รับการรักษาไว ผลลัพธ์การรักษาและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยก็จะยิ่งดีขึ้น
เดือนสิงหาคมของทุกปี เป็นเดือนที่ทั่วโลกร่วมรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักต่อ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Spinal Muscular Atrophy: SMA) ซึ่งเป็นโรคหายากที่เกิดจากความผิดปกติของกรรมพันธุ์ในยีนด้อย หากบิดาหรือมารดาเป็นพาหะทั้งคู่ ย่อมมีโอกาสสูงถึง 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25 ที่บุตรจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ อุบัติการณ์โดยประมาณของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงพบได้ในเด็กแรกเกิดทั่วโลกจำนวน 1 คน ในประชากร 10,000 คนในแต่ละปี และอัตราของคนที่เป็นพาหะอยู่ที่ 1:40–1:60 คน
แม้โรคนี้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือไม่มีผลกระทบต่อคนหมู่มาก ประกอบกับจำนวนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีอยู่อย่างจำกัด แต่การสร้างความตระหนักต่อโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงและขยายโอกาสเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ป่วยช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น ได้รับการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันยังช่วยลดผลกระทบต่อเศรษฐสถานะของผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม
ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงส่งผลต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้เซลล์ประสาทสั่งการสูญเสียการส่งสัญญาณจากไขสันหลังไปยังกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยสามารถแสดงอาการได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแขนขาอ่อนแรง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยขยับได้น้อย เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก บางคนอาจมีกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจอ่อนแรง มีปัญหาทางระบบปอด จนอาจถึงขั้นหายใจล้มเหลวได้ ทำให้ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น รถเข็น เครื่องช่วยหายใจ ท่อเจาะคอ เป็นต้น ทั้งนี้ ระดับความรุนแรงและอาการจะแตกต่างตามช่วงอายุที่เกิดโรค โดยสามารถแบ่งโรคออกเป็นห้าระดับ จาก 0-4 ดังนี้
- SMA Type 0 มีความรุนแรงสูงสุด พบได้ตั้งแต่ในครรภ์แม่ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนทางเดินหายใจถูกปิดกั้น โดยผู้ป่วยมักมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน
- SMA Type 1 มีความรุนแรงสูงพบได้ในเด็กอายุ 0-6 เดือน มักเกิดระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ โดยผู้ป่วยมักมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี
- SMA Type 2 มีความรุนแรงสูงถึงปานกลาง พบได้ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน แม้ผู้ป่วยจะนั่งได้ แต่ไม่สามารถยืนหรือเดินได้ด้วยตนเอง จึงต้องอาศัยรถเข็นเพื่อช่วยการเคลื่อนไหว และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย
- SMA Type 3 มีความรุนแรงปานกลาง พบได้ในเด็กอายุ 18 เดือนขึ้นไป โดยมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม้จะนั่ง ยืน และเดินได้ แต่ผู้ป่วยต้องใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงสำหรับประคองร่างกาย
- SMA Type 4 มีความรุนแรงต่ำที่สุดพบได้ในผู้ป่วยอายุห้าปีขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ผู้ป่วยสามารถนั่งยืนและเดินได้เหมือนบุคคลทั่วไปแต่พบอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและมีการพัฒนาของกล้ามเนื้อช้ากว่าปกติส่งผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันและมักต้องอาศัยรถเข็นเพื่อช่วยการเคลื่อนไหวเมื่อมีอายุมากขึ้น
สำหรับอุบัติการณ์ของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในประเทศไทย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัยยศ คงคติธรรม อาจารย์หน่วยประสาทวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “ปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีการลงทะเบียนผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างเป็นทางการ ทว่า จากการคาดคะเนตัวเลขผู้ป่วยโดยอ้างอิงจากอัตราพาหะของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในประเทศไทยอยู่ที่ 1:50 ของจำนวนประชากร จึงประมาณการณ์ว่าในไทยมีผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอยู่ระหว่าง 10,000–20,000 คน ผู้ป่วยส่วนมากอยู่ในวัยทารกและเด็กเล็ก และมีโอกาสเสียชีวิตได้ตั้งแต่วัยเด็ก หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที”
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมาเกือบสองปี จนอาจก่อให้เกิดความกังวลต่อการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัยยศ กล่าวเสริมว่า “จากข้อมูลที่ทราบเบื้องต้น ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานว่าผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและต้องขอชมเชยผู้ดูแลซึ่งมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงซึ่งมีภาวะปอดขยายตัวได้ไม่ดีอยู่แล้ว สัมผัสกับติดเชื้อโควิด-19 และเชื้อลงปอด อาจส่งผลให้ผู้ป่วยไอได้ไม่เต็มที่ เกิดการคั่งค้างของเสมหะ และมีแนวโน้มที่จะพบภาวะปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงได้”
เพื่อการวิจัยและพัฒนา คัดกรอง วินิจฉัยและรักษา
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัยยศ ยังได้กล่าวถึงการดูแลและแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วยว่า “ทุกวันนี้ การรักษาผู้ป่วย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในประเทศไทยมักเกิดขึ้นในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เท่านั้น เนื่องจากจำเป็นต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายแขนง เช่น แพทย์ระบบประสาทวิทยา เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์เฉพาะทางด้านปอด นักโภชนาการ รวมถึงอุปกรณ์ทำกายภาพและเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งล้วนแต่มีส่วนสำคัญในการดูแลและฟื้นฟูสภาพร่างกายของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง”
ปัจจุบัน ความก้าวหน้าด้านแนวทางการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงรุดหน้าขึ้นโดยลำดับ โดย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัยยศ ได้ขยายความไว้ดังนี้ “วิธีการแรกคือการให้ยาทางไขสันหลัง ออกฤทธิ์เป็น SMN2 splicing modifier เพื่อช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยสามารถผลิตโปรตีน SMN (Survivor Motor Neuron) ที่จำเป็นต่อการทำงานของเส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ วิธีถัดมาคือการให้ยาทางหลอดเลือดดำ เป็นการรักษาด้วยการทดแทนยีน (gene replacement หรือ gene therapy) ใช้อะดิโนไวรัสชนิดที่ 9 (AAV-9) ซึ่งเป็นเวกเตอร์ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการผลิตวัคซีนโควิด เพื่อส่งมอบทรานส์ยีน SMN1 ที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถสร้างโปรตีน SMN ได้ และวิธีล่าสุดนับได้ว่าสะดวกกับผู้ป่วย เนื่องจากเป็นการให้ยาแบบรับประทาน ซึ่งออกฤทธิ์เป็น SMN2 splicing modifier เพิ่มการสร้างโปรตีน SMN ที่ทำหน้าที่ได้ (full-length SMN protein) ทั้งนี้ แนวทางการรักษาที่กล่าวมายังคงเป็นการทดลองใช้ในกลุ่มผู้ป่วยขนาดเล็กเท่านั้น และยังมีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงยาในระบบการดูแลสุขภาพของประเทศไทย หากได้รับการพิจารณาเข้าไปอยู่ในสิทธิเบิกจ่ายจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยและแพทย์อย่างมาก”
มร.ฟาริด บิดโกลิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โรช ไทยแลนด์ เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว กล่าวว่า “โรชตระหนักถึงความท้าทายของโรคหายากที่ผู้ป่วยและผู้ดูแลต้องเผชิญ เราจึงมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการรักษาด้านประสาทวิทยาและด้านพันธุศาสตร์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้การสนับสนุนการทำวิจัยทางคลินิกในกลุ่มผู้ป่วยโรคหายาก ซึ่งรวมถึงโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ในหลายประเทศและในประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่าจะต้องไม่มีผู้ป่วยโรคหายากคนใดถูกมองข้าม เนื่องจากเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนไม่มาก โรชพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำงานร่วมกับผู้ป่วย ผู้ดูแล ชมรมผู้ป่วย และแพทย์ที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นและผลักดันการเข้าถึงการรักษาที่จำเป็น”
นอกจากนี้ การตรวจวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงให้เร็วที่สุด เมื่อเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติทางร่างกายในเด็กแรกเกิดก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องให้ความใส่ใจเช่นกัน “ต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังไม่มีขั้นตอนการตรวจคัดกรองเด็กแรกเกิด อย่างในประเทศไต้หวันและสหรัฐอเมริกา ที่เมื่อพบเด็กแรกเกิดป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แพทย์จะให้ยาตั้งแต่ผู้ป่วยอายุยังน้อยเนื่องจากช่วยให้ผลลัพธ์การรักษาดี การพบเคสผู้ป่วยเด็กส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้น เป็นผลมาจากการที่พ่อแม่สังเกตเห็นพัฒนาการที่ด้อยกว่าเด็กทั่วไป เช่น หากเด็กอายุ 2-3 เดือน แต่ยังไม่สามารถชันคอได้ หรือเด็กอายุ 4-6 เดือนแต่ยังไม่สามารถพลิกคว่ำหงายได้เอง แพทย์จึงต้องตรวจอย่างละเอียดและวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในที่สุด ส่วนผู้ป่วยทารกหรือเด็กเล็กที่อาการของโรครุนแรงมากอาจเสียชีวิตไปก่อนที่พ่อแม่จะมีโอกาสพามาพบแพทย์ เนื่องจากผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจและปอดอักเสบ ดังนั้น การป้องกันไม่ให้เกิดผู้ป่วยใหม่สามารถทำได้หากคู่สมรสวางแผนการมีบุตร และตรวจยีนก่อนตั้งครรภ์” รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัยยศ กล่าวเสริม
ในประเทศไทยมีมูลนิธิโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Foundation to Eradicate Neuromuscular Disease: FEND) และ มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยโรคหายาก (Thai Rare Disease Foundation: TRDF) ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงและผู้ดูแล โดยทำหน้าที่เป็นช่องทางแบ่งปันข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรค ให้คำแนะนำด้านการดูแลรักษาแบบองค์รวมทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับกลุ่มผู้ป่วยและผู้ดูแลอย่างสม่ำเสมอ ผ่านช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟซบุ๊ก เพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเล็งเห็นถึงความต้องการทางการแพทย์ที่จำเป็น แต่ผู้ป่วยยังไม่สามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากการเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ผู้ป่วยอายุยังน้อยส่งผลต่อผลลัพธ์การรักษา ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และสามารถดำรงชีวิตอยู่กับโรคนี้ได้อย่างมีความสุข
“สุดท้ายนี้ ประเด็นที่อยากให้กระทรวงสาธารณสุขควรพิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่ การจัดสรรด้านทรัพยากรและงบประมาณเพื่อการตรวจยีนในคู่สมรสหรือเด็กแรกเกิด เนื่องจากช่วยให้ประเทศลดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่ตามมา ส่วนแนวทางการจัดการโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว จะเน้นไปที่การเข้าถึงการวินิจฉัยให้เร็วที่สุด เพื่อที่แพทย์จะได้มอบการรักษาให้แก่ผู้ป่วยได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งมีแนวโน้มจะตอบสนองต่อการรักษาได้ดี ดังนั้น ประเทศไทยจึงยังต้องการขยายตัวเลือกการรักษาและผลักดันโอกาสการเข้าถึง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดกับผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยเริ่มต้นจากการตระหนักถึงความจำเป็นและความร่วมมือกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้ป่วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชา หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชน” รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัยยศ กล่าวปิดท้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เชียร์ไทยวันนี้ : ลุ้น “ประวัติ-ภูธเรศ” ชิงทองวีลแชร์ 1,500 ม. ,บอลคนตาบอด ฟัด ฟ้า-ขาว
ไฮไลท์การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ประจำวันที่ 31 สิงหาคม วันนี้ชิงเหรียญกันทั้งสิ้น 58 เหรียญทอง มีอะไรน่าลุ้นบ้าง
ไทยเตรียมลุ้นทองจาก 2 นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง
เตรียมตัวลุ้นเหรียญทองกันอีกหนึ่งเหรียญจาก 2 นักกีฬาวีลแชร์ไทย ประวัติ วะโฮรัมย์ และ ภูธเรศ คงรักษ์ ในรายการวีลแชร์เรซซิ่ง 1500 เมตร ชาย คลาส T54 โดยสำหรับประวัติ ในวัย 40 ปี กับพาราลิมปิกเกมส์
ครั้งนี้คือครั้งที่ 6 ของเจ้าตัวแล้ว และคว้าเหรียญทองมาครองแล้วถึง 7 เหรียญด้วยกัน ระยะ 1500 เมตรถือเป็นระยะที่เจ้าตัวทำสถิติได้ดี โดยเฉพาะรอบคัดเลือกทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 1
ขณะที่ ภูธเรศ นี่คือพาราลิมปิกเกมส์ครั้งแรกของเขา และเพิ่งคว้าเหรียญทองแดงในประเภท วีลแชร์เรซซิ่ง 5000 เมตร คลาส T54 มาแล้ว บวกกับดีกรี 1 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทองแดง อาเซี่ยน พาราเกมส์ ที่จากาตาร์ ปี 2018 ส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิกไทยวันนี้ เวลา 09.46 น.
พงค์ชัย ญาณฤดี หนึ่งเดียวของไทยในจักรยานประเภทถนน
พงค์ชัย ญาณฤดี นักกีฬาจักรยานประเภทถนนหนึ่งเดียวของไทยในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ลงแข่งขันในประเภทถนน คลาส H2 ในระยะทางประมาณ 30 กม. เจ้าตัวตื่นเต้นแน่นอนเพราะนี่คือพาราลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในชีวิตของเขา “เจ้าชัย” เด็กหนุ่มจากสุพรรณบุรี รู้ตัวดีว่าเป็นเพียงม้ามืดในรายการนี้ แต่เป้าหมายคือต้องติด 1 ใน 5 ของการแข่งขันครั้งนี้ให้ได้
ฟุตบอลคนตาบอดของไทยไม่มีทางเลือกต้องเก็บ 3 คะแนนเพื่อเข้ารอบ 2
ทีมฟุตบอลคนตาบอดของไทย เมื่อวานนี้พลาดท่าพ่ายทีมโมร็อคโค 0-2 ทำให้การลงเล่นในนัดสุดท้ายของกลุ่ม บี พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องชนะให้ได้สถานเดียวเพื่อต่อลมหายใจ ในการเข้าสู่รอบ 2
โดยวันนี้ ทีมชาติไทย จะพบกับอาร์เจนติน่า เจ้าของเหรียญทองแดงพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งล่าสุด แข่งขันกันเวลา 14.30 น. นอกจากต้องชนะให้ได้ก่อนแล้วไทยยังต้องลุ้นให้สเปนเอาชนะ โมร็อกโค ให้ได้เช่นกันเพื่อที่เราจะเข้ารอบ 2 ตามอาร์เจนติน่าในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม
————————————–
ติดตามการถ่ายทอดสดพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม – 5 กันยายน 2564 ได้ที่ T Sports 7 บนฟรีทีวีดีจิตัล, ช่อง T Sports Channel ทีวีดาวเทียม เลข 91 และแอปพลิเคชั่น AIS PLAY
พร้อมรับชมไฮไลท์การแข่งขันแบบจุใจได้ทุกวันทาง T Sports 7, PPTVHD 36 และ YouTube StadiumTH อย่าลืมกด subscribers กันไว้เลยเพื่อไม่พลาดทุกความสนุกของพาราลิมปิกเกมส์
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
คำศัพท์ประเภทของหนังสือ
รวบรวมคำศัพท์ประเภทของหนังสือในภาษาอังกฤษ จำนวน 55 คำศัพท์ 55 ประเภท พร้อมคำอ่านและความหมาย อย่างละเอียดถูกต้อง มาให้คุณแล้วที่นี่ หนังสือเป็นเครื่องวัดความเจริญของสังคมอย่างหนึ่ง ความสนใจของมนุษย์ได้แตกแขนงออกไปอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดหนังสือประเภทต่างๆขึ้นมากมาย แต่ละประเภทมีกลุ่มบุคคลที่สนใจแตกต่างกันไป ลักษณะการใช้งาน อายุการใช้งาน ก็แตกต่างกันไปด้วย วิธีการผลิตหนังสือแต่ละประเภท และวัสดุที่ใช้ผลิต ก็ต้องแตกต่างกันออกไป ผู้ผลิตจะต้องหาวิธีการผลิตให้เหมาะสมกับหนังสือแต่ละประเภท
หนังสือ คือแหล่งรวบรวมข้อมูล ความรู้ วรรณกรรมต่างๆ ออกมาเป็นตัวอักษร และรูปภาพ ลงในแผ่นกระดาษหรือวัสดุชนิดอื่น เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ในปัจุบันได้มีการพัฒนาหนังสือในรูปแบบที่เก็บในลักษณะอิเล็กทรอนิกส์ จะเรียกว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีบุ๊ก (e-book) คุณอาจจะใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการเขียนหนังสือให้ได้สักเล่ม แล้วเหตุใดจึงจำกัดแค่ตีพิมพ์เป็นภาษาไทยเท่านั้น เราจึงรวบรวมคำศัพท์ประเภทของหนังสือ คำศัพท์ที่ใช้ในการแปลหนังสือ มาให้คุณแล้วที่นี้ แต่วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงผู้อ่านที่ไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ คือการแปลหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยบริการแปลเป็นภาษาอังกฤษระดับมืออาชีพ ไม่เพียงจะช่วยคุณเพิ่มจำนวนผู้อ่านได้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มยอดขายอีกด้วย
บริษัท ภาวาโน่ ซอฟต์แวร์ โซลูชั่น จำกัด ให้บริการรับแปลหนังสือทุกประเภท เราให้บริการแปลหนังสือจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย และยังมีบริการตรวจภาษาโดยผู้เชี่ยวชาญเจ้าของภาษาโดยตรง ดำเนินการโดยทีมงานผู้แปลมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความรู้เฉพาะด้านที่คุณต้องการโดยตรง ให้เราเป็นผู้ดูแลงานชิ้นสำคัญของคุณได้โดยไม่ต้องลังเล รับประกับความพึงพอใจในทุกชิ้นงาน
คำศัพท์ | คำอ่าน | ความหมาย |
Action | แอคชัน | หนังสือแอคชั่น |
Adventure | แอ็ดเฝนเชอะ | หนังสือผจญภัย |
Alternate history | ออลเทอะนิท ฮีซโทะริ | หนังสือประวัติศาสตร์ทางเลือก การเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ |
Anthology | แอ็นธอลโอะจิ | กวีนิพนธ์ |
Chick literature | ชิค ลีทเออะระเชอะ | หนังสือที่พูดเกี่ยวกับวิถีชีวิตของผู้หญิงในยุคปัจจุบัน |
Children’s | ชีลดเร็น | หนังสือสำหรับเด็ก |
Classic | คแลซซิแค็ล | จินตกวีนิพนธ์ |
Comic book | คอมอิค บุค | หนังสือการ์ตูน |
Coming of Age | คัมอิง ออฟ เอจ | หนังสือการก้าวผ่านวัย |
Crime | คไรม | หนังสืออาชญากรรม |
Drama | ดรามะ | หนังสือพฤติกรรมเกินจริง การแสดงออกทางอารมณ์ |
Fairytale | แฟริ เทล | เทพนิยาย |
Fantasy | แฟนทะซิ | หนังสือการจินตนาการ การนึกฝัน ความเพ้อฝัน |
Graphic novel | กแรฟอิค นอฝเอ็ล | หนังสือนวนิยายภาพ |
Historical fiction | อิซทอริแค็ล ฟีคฌัน | นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ |
Horror | ฮอเรอะ | วรรณกรรมเขย่าขวัญ |
Mystery | มีซเทอะริ | หนังสือเรื่องลึกลับ ความพิศวง ความประหลาดมหัศจรรย์ |
Paranormal romance | แพระนอรมัล โรแมนซ | หนังสือนิยายแนวโรแมนติกแบบเหนือธรรมชาติ |
Picture book | พีคเชอะ บุค | หนังสือภาพ |
Poetry | โพเอ็ทริ | กวีนิพนธ์ |
Political thriller | โพะลีทอิแค็ล ธรีลเลอะ | หนังสือนิยายระทึกขวัญมีเนื้อหาทางการเมือง สายลับ |
Romance | โระแมนซ | หนังสือนิยายรัก |
Satire | แซทไอร | หนังสือบทประพันธ์เหน็บแนมหรือเสียดสี |
Science fiction | ไซเอ็นซ ฟีคฌัน | นวนิยายวิทยาศาสตร์ |
Short story | ชอท ซโทริ | หนังสือเรื่องอ่านเล่นขนาดสั้น |
Suspense | ซัซเพนซ | หนังสือเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน |
Thriller | ธรีลเลอะ | หนังสือเรื่องเขย่าขวัญ |
Western | เวซเทิน | หนังสือเกี่ยวกับดินแดนทางตะวันตก |
Young adult | ยัง อะดัลท | วรรณกรรมวัยรุ่น |
Architecture | อาคิเทคเชอะ | หนังสือทางสถาปัตยกรรม |
Autobiography | ออโทะไบออกระฟิ | หนังสืออัตชีวประวัติ |
Biography | ไบออกระฟิ | หนังสืออัตชีวประวัติ |
Business | บีสเน็ซ | หนังสือทางธุรกิจ |
Crafts | ครัฟท | หนังสือเกี่ยวกับช่างฝีมือ |
Cookbook | คุคบุค | ตำราอาหาร |
Diary | ไดอะริ | บันทึกประจำวัน |
Dictionary | ดีคฌะเนริ | พจนานุกรม |
Encyclopedia | เอ็นไซคโละพีเดีย | สารานุกรม |
Guide | ไกด | หนังสือแนะนำ คู่มือ |
Health | เฮ็ลธ | หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ |
History | ฮีซโทะริ | หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พงศาวดาร |
Home and garden | โฮม แอน กาเด็น | หนังสือเกี่ยวกับบ้านและสวน |
Humor | ฮยูเมอะ | หนังสือรวมเรื่องขำขัน |
Journal | เจอแน็ล | นิตยสาร |
Math | แมธ | หนังสือคณิตศาสตร์ |
Memoir | เมมวา | ชีวประวัติบุคคล |
Philosophy | ฟิลอซโอะฟิ | หนังสือปรัชญา |
Prayer | พเรเออะ | หนังสือบทสวดมนต์ |
Religion | ริลีจอัน | หนังสือด้านศาสนา |
Spirituality | ซพีริชิวแอลอิทิ | หนังสือเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องจิตและวิญญาณ |
Textbook | เทคซฺบุค | หนังสือเรียน |
True crime | ทรู คไรม | หนังสือเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริง |
Review | ริฝยู | หนังสือวิจารณ์เหตุการณ์ |
Self help | เซลฟเฮลพ | หนังสือแนะนำแนวคิดในการพัฒนาตน |
Travel | ทแรฝแอ็ล | หนังสือเกี่ยวกับการท่องเที่ยว การเดินทาง |
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์แปลภาษาอังกฤษ.com
โดรนชุมชนเพื่อการเกษตร พลิกโฉมนาสวนไทยสู่ 4.0
โดรน…เทคโนโลยีที่ไม่ได้มีไว้แค่สำหรับถ่ายรูปมุมสูง หรือใช้เฉพาะทางการทหารเท่านั้น หลายปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว สามารถเข้ามาช่วยปฏิวัติการทำงานของหลายๆอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร ภาควิศวกรรมสำรวจ และภาคภูมิศาสตร์
ล่าสุดยังถูกพัฒนาขีดความสามารถเพื่อนำไปใช้กู้ภัยในเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดความเสี่ยงให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่
“เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ชาวไร่ ชาวสวน ในพื้นที่ต่างจังหวัด ให้สามารถนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปประยุกต์ใช้ในขั้นตอนการทำเกษตรกรรม เพื่อก้าวสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ได้ แนวคิดทำโดรนเกษตรเพื่อชุมชนจึงเกิดขึ้น เราจึงได้เริ่มต้นทำแพลตฟอร์มสำหรับการจัดหาโดรนเข้าไปใช้ในการทำการเกษตรให้แก่ชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ในโครงการหน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม (SID) จังหวัดอุบลราชธานี”
ดร.ดี จันทร์ศุภฤกษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งโดรนชุมชน บริษัท นวัตกรรมเพื่อสังคมและเทคโนโลยีเกษตร จำกัด บอกถึงที่มาของโดรนชุมชนที่กำลังได้รับความนิยมจากเกษตรกรมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้เข้าไปช่วยให้การทำเกษตรมีความแม่นยำ ช่วยคำนวณปริมาณสารเคมี ปริมาณพันธุ์ข้าวที่จะใช้ต่อไร่ ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมี
และในอนาคตโดรนจะมีความสำคัญและบทบาทมากกว่าปัจจุบัน โดยเฉพาะการใช้โดรนในระบบขนส่ง โลจิสติกส์ที่มีน้ำหนักเบา ไม่ว่าจะเป็นกล่องพัสดุ เวชภัณฑ์ยา โดยในอนาคตน่าจะถูกพัฒนาให้แม่นยำ มีความทนทานที่จะส่งของหนักได้ หรือใช้โดรนเพื่อซ่อมแซม บำรุงแผงโซลาร์เซลล์ ส่งผลให้สามารถซ่อมแซมได้ตรงจุดและปลอดภัย สอดรับกับอนาคตที่ไทยจะหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นคงทางด้านแรงงานที่กำลังขาดแคลนในปัจจุบัน
ด้าน นายกฤตธัช สารทรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโนวี่ (2018) จำกัด อีกหนึ่งสตาร์ตอัพ ที่เข้าร่วมโครงการ UAV Startup 2017 ที่จัดขึ้นโดย NIA และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA มองไปในทิศทางเดียวกัน…ในอนาคตโดรนจะสามารถเข้าไปช่วยทำให้ระบบการทำงานในภาคส่วนต่างๆเกิดความคล่องตัว รวดเร็ว แม่นยำ และช่วยลดความสูญเสียได้มากยิ่งขึ้น โดยหลังจากได้เข้าร่วมโครงการ ทีมก็ต่อยอดและพัฒนาโดรนสำหรับเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจโดรนเพื่อการเกษตรมาจนปัจจุบัน
“ปัจจุบันโดรนของโนวี่สามารถให้ บริการภาคการเกษตรได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการพ่นยา พ่นปุ๋ย ช่วยให้กระบวนการการทำการเกษตรสะดวกรวดเร็ว ประหยัดการใช้แรงงานคนได้มาก เพราะโดรน 1 ตัว สามารถทำงานได้เร็วกว่าแรงงานคนถึง 10 เท่า”
นายกฤตธัช ยังมองว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า โดรนจะเข้าไปมีบทบาทกับภารกิจอื่นๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นโดรนในระบบโลจิสติกส์ โดรนเพื่อการขนส่ง แท็กซี่โดรน หรือแม้แต่กระทั่งโดรนกู้ภัยพิบัติต่างๆ เพราะการใช้โดรนหรือหุ่นยนต์กู้ภัยสามารถช่วยลดความสูญเสียจากการเข้าไปทำงานในจุดเสี่ยงอันตราย จากประโยชน์อันหลากหลายนี้ ทางทีมจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพให้โดรนสามารถทำงานแทนเจ้าหน้าที่ที่ต้องแบกรับความเสี่ยงในกิจกรรมต่างๆ และพร้อมเป็นส่วนสำคัญในการเติมเต็มภาคสังคมในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างเช่นที่ผ่านมา.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
“Fold and Float” ไอเดียที่พักพิงชั่วคราวแบบลอยน้ำ สำหรับผู้ประสบภัย ที่ประเทศตุรกี
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นได้เกิดภัยพิบัติขึ้นในหลากหลายรูปแบบทั้งอุทกภัย แผ่นดินไหว ดินถล่ม สึนามิ วาตภัย สะท้อนให้เห็นถึงอิมแพคของปรากฏการณ์โลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการเกิดภัยพิบัติในแต่ละครั้ง ส่งผลทำให้บ้านเรือนของประชาชนเกิดความเสียหายพังทลายลงมา ผู้ประสบภัยจึงไม่มีที่พักอาศัย ทำให้เหล่าสถาปนิกเกิดไอเดียในการออกแบบที่พักอาศัยชั่วคราวขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้ประสบภัย
โปรเจกต์การออกแบบ Fold and Float จึงถือกำเนิดขึ้นโดย SO? บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมสัญชาติตุรกี ที่เน้นการออกแบบสถาปัตยกรรมผ่านวิถีชีวิต ได้ดีไซน์ Fold and Float โปรเจกต์บ้านลอยน้ำ อันเป็นต้นแบบบ้านลอยน้ำสำหรับใช้เป็นที่พักอาศัยฉุกเฉินสำหรับผู้ประสบภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอิสตันบูล อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ประเทศตุรกีเป็นประเทศที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง
ผ่านการดีไซน์ให้เป็นโครงสร้างแบบพับได้ สามารถพักอาศัยได้ถึง 6 คน ทำจากเหล็กน้ำหนักเบาที่สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งโครงสร้างภายในแบ่งเป็นพื้นที่ 2 ชั้นสำหรับใช้พักอาศัย โดยด้านบนเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์เตียงจากไม้อัดสนและบันไดสำหรับใช้งานขึ้นลงภายในบ้านและพื้นด้านล่างจะแบ่งเป็นพื้นที่ห้องน้ำและอ่างล้างหน้า สำหรับให้ผู้อาศัยสามารถใช้งานได้อย่างครบครัน
นอกจากนี้ในส่วนของฐานของบ้านลอยน้ำทำจากคอนกรีตแบบเบา สำหรับใช้เป็นทุ่นลอยน้ำ เพื่อรองรับน้ำหนักและผูกยึดกับบ้านลอยน้ำ ปัจจุบันโปรเจกต์ Fold and Float ได้รับการพัฒนาสำหรับโครงการ Hope On Water ที่งาน Istanbul Design Biennial in 2018 และสร้างขึ้นด้วยข้อมูลจากนักศึกษาวิศวกรรมโยธา สถาปัตยกรรมและสังคมวิทยา โดยมีการติดตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Rahmi M. Koç ของเมือง
โปรเจกต์การออกแบบบ้านลอยน้ำ Fold and Float ถือได้ว่าเป็นบ้านลอยน้ำที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ประสบภัยพิบัติ ใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เพื่อรอการฟื้นฟูบ้านเรือนขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาในการก่อสร้างพอสมควร
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 31/08/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,750.00 | 27,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,798.00 | 27,257.68 | 28,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,618.20 | 24,531.91 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,438.40 | 21,806.14 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 809.00 | 12,264.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 629.00 | 9,535.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,863.00 | 28,243.08 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 31/08/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 29.25 | 29.25 | 29.25 | 29.25 | 29.25 | 29.25 | 29.25 | 29.25 | 29.25 | 29.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 27.74 | 27.74 | 27.74 | 27.74 | 27.74 | – | 27.74 | 27.74 | 27.74 | 27.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 22.44 | 22.44 | – | – | – | – | – | – | – | 22.44 |
เบนซิน 95 | 36.66 | – | – | – | 37.11 | – | 37.16 | 36.66 | – | 36.66 |
ดีเซล B7 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 |
ดีเซล | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 |
ดีเซล B20 | 25.54 | 25.54 | 25.74 | – | 25.54 | – | 25.54 | 25.54 | – | 25.54 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 33.56 | 33.56 | 35.24 | 34.96 | – | – | – | – | – | 33.56 |
แก๊ส NGV | 15.48 | 15.48 | – | – | – | – | – | – | – | 15.48 |